“รถ EV” กระแสแรง! บีบเครื่องสันดาป-ไฮบริดตกยุคเร็วขึ้น ดันรถมือสองทะลัก
รถยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังมาแรง หลังค่ายรถรายใหญ่แห่ปรับตัวเร็วกว่าที่คาด อาจเร่งให้รถเครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดตกยุคไวขึ้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี เตือนเต็นท์รถยนต์มือสองเตรียมรับมือผลกระทบ แนะลดสต็อกรถยนต์จำนวนมาก และขยายช่องทางขายผ่านออนไลน์
กระแสรถยนต์ไฟฟ้ามาแรง ! NIA ตั้งงบทุนวิจัยให้เปล่าวงเงิน 100 ล้านบาท
ยอดจดทะเบียนยานยนต์ไฟฟ้า 100% ปี 2565 แซงหน้ารถปลั๊กอินไฮบริด
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี หรือ ttb analytics เปิดเผยบทวิเคราะห์ระบุว่า ปัจจุบันตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้า (EV) ทั่วโลก เติบโตก้าวกระโดด ได้แรงหนุนจากความต้องการผู้บริโภคตามกระแสความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมีแนวโน้มเปลี่ยนผ่านจากระยะบุกเบิกไปสู่ระยะขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ขณะที่ในอนาคตจำนวนรุ่นรถ EV ที่จะออกท้องตลาดอาจมีมากถึง 500 รุ่น เมื่อเทียบกับปัจจุบันอยู่ที่ราว 300 รุ่น ส่งผลให้คาดว่าส่วนแบ่งยอดขายรถ EV ทั่วโลกในปี 2578 สูงเกือบ 60% ของยอดขายรถยนต์นั่งทั้งหมด
ขณะที่ตลาดรถ EV ในไทยยังเติบโตสูง หลังค่ายผู้ผลิตยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากจีน ยุโรป และญี่ปุ่น ต่างเปิดตัวรถ EV ในไทย พร้อมเดินหน้าลงทุนผลิตในประเทศ เพื่อขานรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ
ส่งผลให้รถ EV ในประเทศมีให้เลือกหลากรุ่นหลายยี่ห้อ โดยเฉพาะกลุ่ม SUV ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยตัวเลขยอดจดทะเบียนรถ EV ป้ายแดงปี 2565 สูงถึง 9,678 คัน หรือเพิ่มขึ้น +400.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งใกล้เคียงกับที่ ttb analytics ได้ประเมินไว้
ขณะที่ยอดจองรถ EV ในงานมหกรรมมอเตอร์เอ็กซ์โป เมื่อ ธ.ค. 65 สูงถึง 5,800 คัน เช่นเดียวกับยอดจองโดยตรงผ่านค่ายรถทางฝั่งจีนและสหรัฐอเมริกา ที่มาบุกทำตลาดเองอีกไม่ต่ำกว่า 15,000 คัน
ค่าครองชีพเพิ่ม-ดอกเบี้ยขาขึ้น กดดันลิสซิ่งปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อ "ยากขึ้น"
การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถอาจไม่ง่าย โดย ttb analytics ประเมินสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ในปี 2566 กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารพาณิชย์มีแนวโน้มเร่งตัวขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้ที่ค้างชำระค่างวด 1-2 เดือน ที่อาจเปลี่ยนมาเป็นหนี้เสียเพิ่มขึ้นมา ท่ามกลางแรงกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ภาระค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น สวนทางกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของแต่ละภาคส่วนที่ไม่เท่ากัน
ขณะเดียวกันอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่จะทยอยปรับขึ้น ทำให้ลิสซิ่งต้องเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อกลุ่มสัญญาใหม่ ซึ่งโดยปกติแล้วอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเช่าซื้อจะเป็นอัตราคงที่ตลอดอายุสัญญา ส่งผลให้ผู้ปล่อยกู้ (Leasing) จำเป็นต้องทบทวนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อให้มีความรัดกุมขึ้น
ทั้งการเน้นปรับลดพอร์ตความเสี่ยงในกลุ่มรถแบรนด์รองที่ไม่เป็นที่นิยม หรือรถมือสองที่มีอายุมาก และการเรียกวงเงินดาวน์เพิ่มขึ้นเป็น 10-30% จากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย โดยเฉพาะกลุ่มที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) ที่มีต้นทุนทางการเงินสูงกว่าธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้เป็นไปตามกำหนดเพดานดอกเบี้ยใหม่ที่ไม่เกิน 10% สำหรับรถยนต์ใหม่ และไม่เกิน 15% ต่อปี สำหรับรถยนต์มือสอง
ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าบูม-ดันอุปทานรถมือสองบวม
ttb analytics มองว่า บริษัทผู้ผลิตจะดันตลาดรถ EV ทั่วโลกจะเติบโตเต็มที่ในปี 2573 หลังหลายประเทศดันมาตรการลดปล่อยก๊าซเรือนกระจก พร้อมออกมาตรการสนับสนุนการใช้รถ EV ซึ่งกระตุ้นให้ค่ายผู้ผลิตดั้งเดิมต่างเร่งปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ เพื่อมุ่งสู่ยานยนต์ ZEV ได้เร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้
ขณะเดียวโครงสร้างของห่วงโซ่การผลิตยานยนต์ไฟฟ้าก็สั้นลงมาก เมื่อเทียบกับการผลิตยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป โดยชิ้นส่วนการผลิตรถยนต์นั่งไฟฟ้าหลักจะเกี่ยวข้องกับระบบส่งกำลังที่มีเพียงงานผลิตและประกอบแบตเตอรี่ ทำให้พึ่งพาชิ้นส่วนเพียง 2,000 ชิ้น เมื่อเทียบกับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปที่อาจต้องใช้มากถึง 30,000 ชิ้น
ดังนี้นจึงทำให้ผู้ผลิตสามารถควบคุมสายพานการผลิตในระดับ Mass Production ได้ไม่ยากนัก ทำให้บริษัทผู้ผลิตน้องใหม่เข้าสู่ตลาดได้ง่ายกว่าในอดีตมาก จนเกิดการผลิตรถ EV จากผู้ผลิตรายใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ราคารถ ค่าเชื้อเพลิง และค่าบำรุงรักษาระบบเครื่องยนต์สันดาปสูงกว่าระบบแบตเตอรี่ไฟฟ้าล้วนถึง 2-3 เท่า สวนทางกับราคาขายต่อที่อาจลดลงเฉลี่ยสูงถึงปีละ 10-15% ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคหันมาพิจารณาใช้รถยนต์ไฟฟ้าเร็วขึ้น
แม้ปัจจุบัน ผู้บริโภคส่วนหนึ่งอาจมองว่ารถยนต์ไฟฟ้ายังเป็นเพียงตัวเลือกลำดับรอง เนื่องจากความกังวลเรื่องระยะในการวิ่ง และความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ แต่หากตลาดรถยนต์นั่งไฟฟ้าในประเทศเข้าสู่ช่วงที่เติบโตเต็มที่ จะทำให้ผู้บริโภคพิจารณาใช้รถยนต์นั่งไฟฟ้าเร็วขึ้น และจะทำให้ยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปและไฮบริดถูกลดบทบาทลงในที่สุด
แนะเต็นท์รถมือสองลดสต็อก-ทำตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้และเสริมสภาพคล่อง
ในระยะต่อไปรถยนต์มือสองในตลาดจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง หรือ เต็นท์รถ ที่สต็อกรถไว้เป็นจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบจากอุปทานรถที่เพิ่มสูงขึ้น และจะกดราคาขายต่อ (Resale) ให้ตกเร็วขึ้น
ขณะเดียวกัน เต็นท์รถมือสอง ยังเจอคู่แข่งจากค่ายผู้ผลิตที่ผันตัวไปเป็นดีลเลอร์ซื้อขายรถยนต์มือสอง ตลอดจนการเข้ามาของธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ที่นำเสนอบริการแบบ Subscription หรือ “การเช่าใช้รถ” ที่ครอบคลุมไปถึงการบำรุงรักษา การประกันภัย บริการรถทดแทนระหว่างซ่อม และหากต้องการเปลี่ยนรุ่นรถ หรือ เปลี่ยนจากสัญญาเช่าเป็นสัญญาเช่าซื้อก็สามารถทำได้เช่นกัน ทำให้ผู้บริโภคสามารถทดลองขับรถได้อย่างอิสระจนกว่าจะพอใจ
ดังนั้นเหล่าเต็นท์รถ ต้องปรับตัวรับมือด้วยการทยอยลดการสต็อกรถยนต์จำนวนมาก โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมือสองที่ผ่านการใช้งานหนัก รวมไปถึงแบรนด์รถ หรือรุ่นนอกกระแสที่ราคาตกเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงที่จะขาดสภาพคล่องของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ การหันมาขายรถบนช่องทางออนไลน์ที่ได้มาตรฐานก็ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการรถ และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้า รวมถึงช่วยลดช่องโหว่จากการรับรู้ข้อมูลที่ไม่เท่าเทียมกันระหว่างสองฝ่ายได้อีกด้วย