ยามาฮ่า ตั้งเป้ายอดขายปี'66 โต 4% จับตาปัจจัยเสี่ยงกระทบตลาด จยย.
ยามาฮ่า เผยยอดขายรถจักรยานยนต์ปี 2565 ปิดตัวเลขที่ 2.84 แสนคัน โต 6.9% ขณะที่ ตลาดรถจักรยานยนต์ปี 2566 คาดการณ์ไม่เติบโต
ทัตสึยะ โนซากิ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายของบริษัทปี 2565 มียอดขายอยู่ที่ 283,903 คัน เติบโตขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 15.8%
ฮอนด้า คาดตลาดรถจักรยานยนต์ปี'66 ลดลง 3% จากปัจจัยเศรษฐกิจโลกไม่แน่นอน
ยามาฮ่า จีที 125 เปิดตัว 2 สีใหม่ ราคา 5.03 หมื่นบาท
ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์กลุ่มโตเมติกส์ของ ยามาฮ่า โดยเฉพาะ ยามาฮ่า แกรนด์ ฟีลาโน่ ไฮบริด คอนเน็กเต็ด มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 97,446 คัน เติบโตขึ้น 35% จากปีก่อนหน้า และ รถจักรยานยนต์กลุ่มครอบครัว โดยเฉพาะ ยามาฮ่า ฟินน์ มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 84,871 คัน เติบโตขึ้น 31% จากปีก่อนหน้า
สำหรับปีที่ผ่านมาบริษัทได้ทำงานร่วมกับบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่นิย่างใกล้ชิดในการวางแผนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ แม้ว่าจะมีปัญหาการขาดแคลนสินค้าและความไม่แน่นอนที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งสามารถแก้ไขและสร้างสถานการณ์ให้ดีขึ้น จนสามารถที่จะบรรลุผลประกอบการ และยอดขายประจำปีได้ตามเป้าหมาย
นายพงศธร เอื้อมงคลชัย รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ปี 2566 ยามาฮ่า คาดการณ์ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 1.8 ล้านคัน เทียบเท่ากับปี 2565 โดยแม้ว่าจะมีสัญญาณที่ดีจากการคาดการณ์เศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2566 นี้ ของภาครัฐ และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นซึ่งจะส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น พร้อมกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีความเบาบางลงจนเป็นโรคประจำถิ่น ทำให้ภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในประเทศมีการฟื้นตัว ซี่งเป็นปัจจัยบวกต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ส่วนในด้านปัจจัยเสี่ยงยังคงเป็นเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น การขาดแคลนชิ้นส่วนและวัตถุดิบไม่เพียงพอในบางรุ่น รวมถึงกฎหมายควบคุมดอกเบี้ยเช่าซื้อที่มีผลต่อผู้บริโภค
ขณะที่ ปี 2566 ยามาฮ่า ตั้งเป้าหมายยอดขายไว้อยู่ที่ 295,000 คัน เติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคาดว่าจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 16.5% โดยในปีนี้บริษัทจะเร่งกำลังการผลิตและการสร้างแบรนด์พร้อมใช้กลยุทธ์ด้านการขายและการตลาดเพื่อบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
นายภาณุพล กิตติคำรณ รองผู้จัดการใหญ่ด้านการขายและการตลาด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ปี 2566 บริษัทมีแนวทางการขายและการตลาดด้วยการยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าด้วย 6 กลยุทธ์ดังนี้
- เดินหน้าพัฒนา New YAMAHA SQUARE ตั้งเป้าในการปรับเปลี่ยนโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ด้วยดีไซน์ใหม่ และทันสมัยจาก 89 โชว์รูมทั่วประเทศในปี 2565 และในปีนี้เราพร้อมเดินหน้าพัฒนาโชว์รูม New YAMAHA SQUARE เพิ่มขึ้นเป็น 170 สาขาทั่วประเทศภายในปีนี้ เพื่อยกระดับการขาย และการบริการ เพิ่มความประทับใจและความพึงพอใจให้กับลูกค้า
- เสริมความแกร่งพัฒนาบริการหลังการขายในระดับ Pro Care สร้างความแตกต่างของการบริการ และเพิ่มความเชื่อมั่นของลูกค้าด้วยการวิเคราะห์ปัญหาด้วยเครื่องมือ Yamaha Diagnostic (YDT) ได้ถูกต้องและชัดเจน สามารถเก็บข้อมูลเข้าสู่ระบบ ID Card Reader พร้อมกับการแจ้งเตือนเข้ารับบริการผ่านช่องทาง LINE OA
- พัฒนากิจกรรม Lifestyle กลุ่ม YAMAHA Club เพิ่มกิจกรรมที่ตอบโจทย์และโดนใจของกลุ่มลูกค้ายามาฮ่าที่หลากหลาย พร้อมสนับสนุน Customer Club ในทุกพื้นที่ และสร้าง Community ที่แข็งแรง เพื่อสร้างความประทับใจ และความผูกพัน ตลอดจนสามารถรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ผ่านทาง Application YAMAHA SMART REWARD
- ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ด้วยการตลาดด้วยรูปแบบ Digital Marketing พัฒนาและสร้าง Online Touchpoint เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสื่อสารกับลูกค้า ที่ตรงกลุ่มลูกค้า สามารถวิเคราะห์ความต้องการในด้านต่างๆ ของลูกค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย และลูกค้าสามารถติดต่อสื่อสารผ่านระบบ LINE OA พร้อมสามารถลิงก์กับ SMART REWARD และ Y-CONNECT ได้อย่างง่ายดาย
- เดินหน้าเสริมความมั่นใจสินค้า และกล้ารับประกันสินค้า 5 ปี หรือ 50,000 กม. เดินหน้าสร้างการรับรู้ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ในการรับประกันสินค้ามากที่สุดในกลุ่มธุรกิจยานยนต์ด้วยระยะเวลาการรับประกัน ถึง 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร และสำหรับในรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าฟินน์ เรากล้าให้การรับประกัน 5 ปี แบบไม่จำกัดระยะทาง เพิ่มความเชื่อมั่นในการตัดสินในซื้อสินค้า
- เดินหน้าการตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยเป็นการใช้กลยุทธ์ให้เหมาะสมในแต่ละเซ็กเมนต์ตรงตามความต้องการ เพื่อเข้าถึงและโดนใจลูกค้า โดยยามาฮ่าเสริมความแข็งแกร่งในกิจกรรมทั้งก่อน และหลังการขายให้ครอบคลุมครบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มเซ็กเมนต์ ได้แก่
- กลุ่มลูกค้ารถสปอร์ต เน้นไปที่การเจาะกลุ่มในแต่ละพื้นที่ พร้อมเสริมเรื่องสินค้าอะไหล่ตกแต่ง รวมทั้งกิจกรรมที่ส่งเสริม และสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
- กลุ่มลูกค้ารถออโตเมติก เน้นการขยายตลาดแนวกว้าง ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยเน้นการขยายจากตัวเมืองใหญ่ เสริมด้วยกิจกรรมไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตติ้ง และสร้างความเป็น Community ให้ใหญ่ขึ้น
- กลุ่มลูกค้ารถครอบครัว ขยายตลาด mass ให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ มีรถจัดแสดงในทุกจุด และเติมเต็มกิจกรรมทั้งหน้าร้านและนอกร้าน โดยร่วมมือกับร้านผู้จำหน่ายทั่วประเทศ