.

ในช่วงชีวิตของแต่ละคนอย่างน้อยต้องมีสถานที่ 3 แห่ง ที่เป็นพื้นที่แห่งความทรงจำดีๆ จากช่วงเวลาแห่งความสุขและความผูกพันทางใจ นั่นก็คือ “บ้าน” - “โรงเรียน” - “มหาวิทยาลัย” แต่นอกเหนือไปจากสถานที่เหล่านี้แล้ว เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยยังมีอีกหนึ่งสถานที่ๆ เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งและถือเป็นเบื้องหลัง ที่ช่วยให้ทุกคนได้เติบโตและมีชีวิตอย่างมีความสุข สถานที่แห่งนั้นก็คือ “โรงพยาบาล” แม้ว่าการไปโรงพยาบาลแต่ละครั้ง อาจไม่สนุกเหมือนไปเดินห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อทุกคนได้เข้าสู่กระบวนการรักษาที่มีมาตรฐาน ความเจ็บป่วยหรือแม้กระทั้งความทุกข์ใจกลับหายเป็นปลิดทิ้ง..
ที่ผ่านมาการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรโลกอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ในช่วง 5 ปีหลังจะเริ่มลดลงอย่างชัดเจน ทำให้ทุกวันนี้ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ที่ประสบปัญหาความไม่เพียงพอของหน่วยบริการสาธารณสุขกับจำนวนผู้ป่วย แต่ทุกประเทศทั่วโลกก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน ยิ่งในปัจจุบันโรคภัยไข้เจ็บพัฒนาตัวจนรักษาได้ยากขึ้น ไม่นับรวมปัญหาเชื้อดื้อยา การเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม และการเคลื่อนตัวเข้าสู่สังคมสูงอายุ ล่วนแต่ส่งผลทำให้ผู้คนมีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น
สถานการณ์เช่นนี้ไม่เพียงต้องเร่งเติมบุคลากรสุขภาพ และพัฒนาหน่วยบริการรองรับผู้ป่วยในอนาคตเท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันการมีโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ และได้รับการรับรองมาตรฐานระดับโลกกระจายไปในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ยังถือเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยได้เข้าถึงการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาแล้ว ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้นด้วย เหล่านี้ถือเป็นเป้าหมายสูงสุดของโรงพยาบาลในเครือ BDMS และด้วยความมุ่งมั่นในการยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์ ที่มีความแข็งแกร่งในระดับสูงสู่มาตรฐานที่ดียิ่งกว่า ก้าวสู่การเป็น “Center of Excellence Network” จากการพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาลเครือข่ายให้ครอบคลุมการรักษาทุกโรค เพื่อเป็น “World Class Service Health Care To You” ทำให้ตลอดระยะเวลา 45 ปี ไม่เฉพาะคนไทยแต่ยังชาวต่างชาติทั่วโลก ต่างไว้ใจและยกให้โรงพยาบาลแห่งนี้เยียวยาและรักษาเมื่อเจ็บป่วย
เพราะความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และการใช้เทคโนโลยีทางการแพย์ที่ทันสมัย มาให้บริการรักษาทุกมิติทัดเทียมระดับสากล ภายใต้หัวใจหลักสำคัญ 5 ประการ คือ
1. การดูแลผู้ป่วย (Patient Care) : ด้วยการสร้างมาตรฐานการรักษาพยาบาลอย่างเป็นระบบทัดเทียมกับโรงพยาบาลชั้นนำของโลก ไม่ว่าจะเป็นการตรวจวินิจฉัยและประเมินผู้ป่วย เพื่อเลือกวิธีการดูแลรักษาที่เหมาะสมจากทีมผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง โดยเฉพาะในกลุ่มโรคที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเร่งด่วน รวมทั้งพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยทั้งในประเทศและต่างประเทศที่มีมาตรฐาน ตลอดจนการวางแผนดูแลผู้ป่วยอย่างเชื่อมโยงและสอดประสานกันระหว่างวิชาชีพ และหน่วยบริการต่างๆ ที่ปลอดภัยและทันท่วงที ทั้งกับโรงพยาบาลในเครือและสถาบันการแพทย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
2. การวิจัยและสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการ (Academic Research & Publications) : ด้วยการสนับสนุนให้มีการค้นคว้าและวิจัยความรู้ทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งทางวิชาการ การแลกเปลี่ยน และเรียนรู้ประสบการณ์ด้านการวิจัย รวมถึงเผยแพร่ผลงานทางวิชาการในระดับประเทศและนานาชาติ อันจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน กลุ่มวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนสาธารณชนในวงกว้าง
3. การสอนและฝึกอบรม (Teaching & Training) : เพื่อให้ทีมแพทย์ พยาบาล และบุคลากรในแผนกต่างๆ ได้เพิ่มพูนความรู้และความเชี่ยวชาญ ในความรู้เฉพาะทางและความรู้แบบสหสาขา เพื่อนำไปใช้ในการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม และมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
4. การสร้างเครือข่ายความร่วมมือ (Synergization) : โดยการแลกเปลี่ยนและให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลทางวิชาการ การวิจัย และการฝึกอบรมกับโรงพยาบาลในเครือ
5. ความร่วมมือกับสถาบันทางการแพทย์ในต่างประเทศ (Affiliation) : ผ่านการทำงานร่วมกันในด้านงานวิชาการ การพัฒนางานวิจัย ตลอดจนแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อรองรับการดูแลและรักษาผู้ป่วย ภายใต้การเป็น Your Trusted Healthcare Network ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
อย่างที่ทราบกันดีว่าความพยายามในและการมุ่งมั่น ยกประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง ย่อมส่งผลดีต่อโอกาสการรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ ซึ่งท้ายที่สุดไม่เฉพาะตัวผู้ป่วยเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรง แต่ยังรวมไปถึงญาติพี่น้องและเพื่องฝูงที่ห่วงใยอยู่ข้างหลัง ให้กลับมายิ้มอย่างมีความสุขได้อีกครั้งนั่นเอง