วิธีรักษาและคัดกรองเชื้อ HPV ตัดวงจรก่อนเป็นมะเร็งปากมดลูก!
ผู้ติดเชื้อHPV ส่วนมากมักไม่แสดงอาการแต่จะแสดงโรคออกมาเมื่อผ่านมาหลายปีแล้วซึ่งหากพบว่าตัวเองติดเชื้อแล้วควรรีบรักษาตัดวงจรก่อนเป็นมะเร็ง!
สาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความรุนแรง ที่สามารถเปลี่ยนเซลล์ปกติให้กลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ซึ่งการติดเชื้อ HPV ยังไม่เท่ากับเป็นมะเร็ง หากรู้ทันสายพันธุ์ของโรคหรือการหยุดพัฒนาหากตรวจพบเชื้อ HPV ตั้งแต่ระยะก่อนกลายเป็นมะเร็ง
การมีเพศสัมพันธ์..ไม่ว่าจะเป็นทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก สามารถทำให้เกิดการแพร่เชื้อ HPV ได้มากถึง 40 ชนิด โดยมีเชื้อไวรัส HPV 15 ชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก
เอชพีวี (HPV) คืออะไร? ทำไมก่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์-สารพัดมะเร็ง
สัญญาณ “ติดเชื้อไวรัส HPV” บางรายไม่มีอาการแต่เป็นพาหะนำโรค!
สายพันธุ์ที่อยู่ในกลุ่มสายพันธุ์รุนแรงและส่งผลให้เกิดโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากถึง 70% คือสายพันธุ์ 16 และ 18
เชื้อไวรัส HPV อาจไม่ได้ทำเสี่ยงมะเร็งเสมอไป
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (CDC) พบว่าเชื้อ HPV ชนิด mucosal สามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มสายพันธุ์ที่ไม่รุนแรงและกลุ่มสายพันธุ์ที่รุนแรง โดยกลุ่มที่ไม่รุนแรงจะสามารถทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ รอบๆ อวัยวะเพศและทวารหนัก หรือภายในช่องปากและลำคอ โดยกว่า 90% ของหูดที่อวัยวะเพศเกิดจากการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ 6 และ 11
ในการติดเชื้อ HPV เรื้อรัง..โดยเฉพาะกลุ่มสายพันธุ์รุนแรง ไม่เพียงก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปากมดลูกเท่านั้น เพราะเชื้อ HPV จะอาศัยอยู่ในเซลล์เยื่อบุผิวหนังและเยื่อมูกที่ปกคลุมหลายส่วนของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นปาก ลำคอ ช่องคลอด อวัยวะเพศภายนอก ทวารหนัก หรือท่อปัสสาวะที่องคชาติ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในช่องปาก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งที่อวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชายได้เช่นกัน
วิธีการรักษาหากติดเชื้อ HPV
หากติดเชื้อ HPV วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการที่พบเป็นสำคัญ โดยผู้ที่เป็นหูดจะรักษาโดยการใช้ยา ส่วนผู้ที่เป็นมะเร็งอาจต้องเข้ารับการฉายรังสีหรือผ่าตัด หากรู้เร็วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและมะเร็งไม่ลุกลามจนสายเกินไป
ห้องน้ำสาธารณะเสี่ยงติดเชื้อ HPV ก่อมะเร็งปากมดลูกจริงหรือไม่?
ป้องกันได้ดีกว่า! หากตรวจคัดกรองร่วมด้วย
นอกจากการป้องกันมะเร็งปากมดลูกด้วยการฉีดวัคซีน HPV สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ แล้ว เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำร่วมกับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ โดยวิธีการตรวจที่มีทั้งหมด 3 วิธี คือ
- การตรวจ Pap smear เป็นการใช้ไม้พายเล็กๆ เก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูกเพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ วิธีนี้มีความแม่นยำประมาณ 50%
- การตรวจ ThinPrep เป็นการใช้อุปกรณ์เฉพาะในการเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูก ก่อนใส่ลงในขวดน้ำยาตินเพร็พ เพื่อนำส่งห้องปฏิบัติการต่อไป วิธีนี้มีความแม่นยำประมาณ 90-95%
- การตรวจ ThinPrep + HPV DNA Test วิธีนี้เป็นการตรวจที่มีความแม่นยำสูงที่สุด เพราะเป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับการตรวจดีเอ็นเอของเชื้อเอชพีวีสายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก ซึ่งหากตรวจแล้วไม่พบว่ามีการติดเชื้อ ก็สามารถมั่นใจได้ถึง 99% เลยทีเดียว
ปัจจุบันมีการพัฒนาการตรวจค้นหาเชื้อ HPV ที่มีความแม่นยำอย่างมาก เพราะเป็นการตรวจแบบเจาะลึกถึงระดับชีวโมเลกุลทั้งยังสามารถค้นหาเชื้อ HPV ได้ตั้งแต่ในระยะที่ยังไม่พัฒนากลายเป็นมะเร็งปากมดลูก ทำให้สามารถป้องกันและรักษาได้ทันท่วงที เพราะเชื้อ HPV ใช้เวลานานหลายปีกว่าจะลุกลามกลายเป็นเซลล์มะเร็ง การตรวจหาเชื้อ HPV จึงเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้พบเชื้อไวรัส..และรักษาได้ทัน ก่อนเชื้อ HPV ก่อให้เกิดการอักเสบเรื้อรังจนกลายเป็นเซลล์มะเร็งในอนาคต
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล
ภาพจาก : freepik และ shutterstock
"หูด"สัญญาณติดเชื้อ HPV- หูดหงอนไก่เสี่ยงมะเร็งปากมดลูกหรือไม่?
สายพันธุ์ไวรัส HPV ชนิดไหนรุนแรงเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก-หูดหงอนไก่