อาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ใครบ้างเสี่ยง? วิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน!
ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน เช็กอาการและวิธีปฏิบัติที่ถูกต้อง ตามที่แพทย์แนะนำ!
น้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) คือ ภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 50 มก./ดล. (ผู้ป่วยโรคเบาหวานอาจพบน้ำตาลในเลือดต่ำกว่า 70 มก./ดล.) อาจเกิดขึ้นได้อย่างกระทันหัน โดยส่วนมากภาวะดังกล่าวผู้ป่วยจะรู้ตัวทันทีและแก้ไขได้ทัน
สาเหตุน้ำตาลในเลือดต่ำ
-
กินอาหารไม่เพียงพอหรือไม่ตรงเวลา
-
ฉีดอินซูลินเกินขนาด หรือการใช้ยาบางชนิดที่อาจก่อให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ
-
ออกกำลังกายมากเกินไป
-
ดื่มแอลกอฮอล์ขณะท้องว่าง หรือดื่มมากเกินไป
น้ำตาลในเลือดตก ควรรีบกินอะไร? แนะวิธีป้องกันอาการเวียนหัวง่ายวูบบ่อย
9 อาการเบาหวาน สัญญาณที่อาจมองข้าม เช็กก่อนคุมไม่ได้อันตรายถึงชีวิต
Freepik/chevanon
วัดระดับน้ำตาล

อาการน้ำตาลในเลือดต่ำ
-
ตัวสั่น กระสับกระส่าย
-
เหงื่อออกมาก
-
รู้สึกหิวรุนแรง
-
หัวใจเต้นแรง
-
ชาปลายนิ้วมือ ปลายเท้า หรือรอบปาก
-
มึนงง เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ
-
หน้ามืด ตาลาย สับสน
-
รู้สึกอ่อนเพลีย
หากปล่อยไว้ไม่รักษาภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำอาจทำให้เกิดอาการชัก หมดสติ ไม่รู้สึกตัว สมองพิการ หรือเสียชีวิตได้
ใครบ้างเสี่ยงน้ำตาลในเลือดต่ำ
-
ผู้เป็นเบาหวานที่มีอายุมากกว่า 60 ปี
-
ผู้ที่เป็นเบาหวานมานานมากกว่า 10 ปี
-
ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับหรือโรคไต
-
ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยกระทันหันด้านร่างกายและจิตใจ
ดูแลตัวเองเบื้องต้น เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ
-
อมลูกอม 2 เม็ด หรือน้ำตาล 2 ก้อน
-
กินน้ำตาล น้ำผึ้ง หรือน้ำเชื่อม 3 ช้อนชา
-
กินผลไม้อย่าง ส้ม 2 ลูก หรือกล้วยน้ำว้า 1 - 2 ผล
-
ดื่มน้ำผลไม้ ครึ่งแก้ว โดยต้องไม่ใช่น้ำผลไม้แบบแคลอรี่ต่ำหรือลดน้ำตาลลง
-
ดื่มน้ำอัดลมครึ่งกระป๋อง โดยต้องไม่ใช่น้ำอัดลมแบบแคลอรี่ต่ำหรือลดน้ำตาลลง
-
ไอศกรีม 2 สกูป
-
ขนมปัง 1 แผ่น
อาการมักดีขึ้นภายใน 15 - 20 นาที แต่หากมีอาการรุนแรงจนไม่รู้สึกตัว ห้ามให้อาหารหรือน้ำแก่ผู้ป่วยเด็ดขาด โดยให้รีบนำส่งโรงพยาบาลทันที
ผู้สูงอายุเสี่ยงภาวะขาดน้ำ รุนแรงเสี่ยงหัวใจล้มเหลวไตวายได้!
วิธีปฏิบัติหากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำบ่อย
- ควรมีลูกอม หรือน้ำตาลก้อนติดตัวไว้ ยามฉุกเฉิน
- แจ้งญาติหรือผู้ใกล้ชิดให้ทราบว่าเป็นโรคเบาหวาน
- พกบัตรประจำตัวผู้ป่วยเบาหวานตลอดเวลา เมื่อออกจากบ้าน
- ทั้งนี้ควรแจ้งแพทย์ทุกท่านในกรณีที่ต้องรับประทานยารักษาโรคอื่นร่วมด้วย
- ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลหรือวิทยากรเบาหวาน หากมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำบ่อยๆ
ทั้งนี้หากไม่อยากป่วยด้วยภาวะน้ำตาลตกควรควบคุมอาการและกินให้ตรงต่อเวลา ใช้ยาตามแพทย์สั่ง ออกกำลังกายแต่พอดี ในผู้ป่วยเบาหวานควรตรวจเช็กระดับน้ำตาลอย่างสม่ำเสมอ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล สมุทรปราการ
9 วิธีดูแลผู้ป่วยเบาหวานช่วงหน้าร้อน! ละเลยอาจเสี่ยงถึงชีวิต
สธ.เผยนอนดึกตื่นเที่ยง นาฬากาชีวิตรวนเสี่ยงโรคหัวใจ-เบาหวาน กระทบสมอง