ตัวเลขค่าเลือดเตือน “ภาวะโลหิตจาง” เสี่ยงหัวใจวาย-น้ำท่วมปอดเฉียบพลัน!
โลหิตจาง หนึ่งในภัยสุขภาพที่คนส่วนใหญ่เป็นแต่ไม่รู้ตัวเท่าไหร่ เพราะไม่มีอาการนำ แนะสาเหตุและตัวเลขบนใบตรวจสุขภาพเตือนโรค!
ภาวะโลหิตจาง หรือ ภาวะซีด (Anemia) ไม่ใช่โรคแต่เป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาสุขภาพที่ต้องได้รับการรักษา ซึ่งเป็นภาวะที่ความเข้มข้นของเลือดแดงต่ำกว่าปกติ เนื่องจากมีหลายปัจจัยในการควบคุมการสร้างเม็ดเลือดแดงให้ออกมาสู่ระบบหมุนเวียนโลหิต
องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเกณฑ์วินิจฉัยภาวะโลหิตจาง จากปริมาณฮีโมโกลบิน (Hemoglobin) ในเลือดเป็นตัวเลข ดังนี้
- ผู้หญิงต่ำกว่า 12 g/dL
- ผู้ชายต่ำกว่า 13 g/dL
- ผู้หญิงตั้งครรภ์ ต่ำกว่า 11 g/dL
ตรวจภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก วิธีการรักษาที่ถูกต้อง!
อาหารบำรุงเลือด แหล่งเหล็กธาตุเหล็ก ป้องกันการทำงานของหัวใจ

ปกติแล้วในร่างกายของคนเรา จะมีฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงที่เป็นตัวนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางจึงมีอาการผิดปกติจากการที่เนื้อเยื่อต่างๆ ได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ
อาการภาวะโลหิตจาง
- เหนื่อยง่าย
- อ่อนเพลีย
- รู้สึกเหนื่อยเวลาออกแรง
- วูบ หน้ามืด เวียนศีรษะ
- ง่วงนอนมากกว่าปกติ
- หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น
- เจ็บหน้าอก
- เล็บเปราะง่าย
- ผมร่วง
- ผิวแห้ง
- ตัวซีด
3 กลุ่มสาเหตุและปัจจัยภาวะโลหิตจาง
การสร้างเม็ดเลือดแดงลดลง
- โรคไขกระดูกผิดปกติ
- โรคขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง อาทิ ธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 กรดโฟลิก
- โรคไตวายเรื้อรัง ทำให้ขาดฮอร์โมนที่เป็นตัวกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง
- โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น โรคมะเร็ง โรคในระบบภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
การทำลายเม็ดเลือดแดงมากกว่าปกติ
- โรคธาลัสซีเมีย
- โรคขาดเอนไซม์ G6PD
- โรคเม็ดเลือดแดงแตกง่ายจากภูมิคุ้มกันตนเอง
การสูญเสียเลือด
- การเสียเลือดในทางเดินอาหาร
- การเสียเลือดทางประจำเดือน
- การเกิดอุบัติเหตุ
“ลูคีเมีย” มะเร็งเม็ดเลือดขาว เลือดออกง่าย ติดเชื้อบ่อย สัญญาณรีบพบแพทย์
ทั้งนี้หากโลหิตจางระดับฮีโมโกลบินต่ำกว่า 5 g/dL อาจจะกระตุ้นให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอย่าง ภาวะหัวใจวาย (Heart failure) เนื่องจากหัวใจจะทำงานหนักขึ้นในการปั๊มเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย จนสุดท้ายหัวใจทำงานไม่ไหว ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมปอดตามมาได้
ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง แต่ก็ขึ้นกับความเฉียบพลันด้วยหรือไม่
ภาวะเฉียบพลันดังกล่าว อาจเกิดจากการสูญเสียเลือดในปริมาณมากในเวลาอันสั้น จะมีอาการชัดเจนและรุนแรงกว่า คนที่มีภาวะโลหิตจางเรื้อรังผู้ป่วยหลายคนตรวจเจอภาวะโลหิตจางจากการตรวจสุขภาพประจำปี โดยที่ไม่มีอาการแสดงมาก่อน การยืนยันหรือสรุปการวินิจฉัยจำเป็นต้องมีการตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (complete blood count, CBC) โดยการตรวจไม่จำเป็นต้องงดน้ำงดอาหารก่อนการเจาะเลือด
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี
“จ้ำเลือด”ไม่มีสาเหตุสัญญาณ “ลูคีเมีย” มะเร็งเม็ดเลือดขาวพบมากในเด็ก
เครียดจัด- จิตตกบ่อย เสี่ยงมะเร็งลูคีเมีย เพราะเป็นพิษกับเซลล์ทำลายมะเร็ง