ข้อมืออักเสบ อาการฮิตชาวออฟฟิศ เผยวิธีบริหารข้อมือระหว่างวันช่วยได้!
ชาวออฟฟิศ มักเจอปัญหา เอ็นข้อมืออักเสบ ที่มักจะเรื้อรังหากไม่เปลี่ยนพฤติกรรม เผยวิธีบริหารข้อมือง่ายๆ ทำได้ระหว่างวันช่วยเซฟข้อมือได้
ด้วยการทำงานที่ต้องอยู่กับแป้นพิมพ์และเม้าส์ตลอดเวลา อย่างชาวออฟฟิศ ทำให้ปวดข้อมืออยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นสัญญาณ เอ็นข้อมืออักเสบ (De quervain's Tenosynovitis) ที่ถึงแม้จะไม่อันตรายมากแต่อาจเจ็บปวดเรื้อรังจนบั่นทอนคุณภาพชีวิต เนื่อจากข้อมือเป็นข้อต่อที่ใช้งานมากที่สุดส่วนหนึ่งของร่างกาย สามารถเคลื่อนไหวในแนวต่างๆ โดยมีเอ็นข้อมือช่วยยึดและดึง นอกจากนี้ยังมีปลอกหุ้มเอ็น คลุมเอ็นข้อมือไว้ คอยรั้งเอ็นให้อยู่แนบข้อมือ แม้จะช่วยกันทำงาน แต่หากใช้งานข้อมือซ้ำๆ หรือผิดท่าทางเป็นเวลาติดต่อกันยาวนาน

รวมถึงเกิดอุบัติเหตุจนส่งผลให้เอ็นและปลอกหุ้มเอ็นอักเสบ อาจส่งผลให้ให้เกิดอาการเจ็บข้อมือ ซึ่งพบได้บ่อยที่สุดบริเวณข้อมือฝั่งนิ้วหัวแม่มือ ซึ่งเรียกว่า ภาวะปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ (De Quervain’s Tenosynovitis)
อาการเอ็นอักเสบที่ข้อมือ
- รู้สึกเจ็บเวลาขยับนิ้วหัวแม่มือ
- เมื่อกดบริเวณเอ็นใต้รอยต่อข้อมือที่อยู่ถัดจากโคนนิ้วโป้งลงมา…จะมีอาการเจ็บ
- รู้สึกว่าบริเวณข้อมือผิวหนังจะร้อนๆ กว่าบริเวณอื่น
- กล้ามเนื้อที่ยึดต่อกับเอ็นมีอาการเกร็งหรือแข็ง
นอกจากปลอกหุ้มเอ็นข้อมือและเอ็นข้อมือ ยังมีกระดูกที่อยู่ลึกลงไป หากมีการบาดเจ็บของกระดูกอาจส่งผลให้เจ็บปวดบริเวณข้อมือได้เช่นกัน แต่มีอาการแสดงที่แตกต่างออกไป เช่น กระดูกข้อมือหักหรือร้าว ข้อโคนนิ้วโป้งเสื่อม เป็นต้น
อาการปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ
- อาการเจ็บข้อมือ ขณะมีการเคลื่อนไหวในแนวเส้นเอ็น กรณีมีการอักเสบมากอาจมีภาวะข้อมือบวม แดง
- ปวดบริเวณข้อมือด้านนิ้วโป้งที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนไหว ปวด บวมมากกว่ามืออีกข้าง และจำกัดการเคลื่อนไหว เช่น เมื่อขยับข้อมือ นอนสะดุ้งตื่นเพราะข้อมือบิดหมุนช่วงหลับโดยไม่รู้ตัว และอาจมีอาการบวมแดงร่วมด้วย
กรณีพบอาการปวดที่รบกวนการทำงานในชีวิตประจำวัน ไม่สามารถใช้ชีวิตหรือทำงานได้ตามปกติ ควรพบแพทย์เพื่อทำการ
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงเอ็นข้อมืออักเสบ
- อุบัติเหตุ เช่น ล้ม ในท่าที่มีแรงกระแทก ที่ทำให้เกิดการบาดเจ็บเส้นเอ็น จนส่งผลให้เกิดการอักเสบ
- ผู้ที่ใช้งานข้อมือซ้ำ ๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จนเกิดการกระตุ้นให้มีภาวะอักเสบ
- การขยับข้อมือผิดลักษณะ หรือใช้อุปกรณ์ที่ต้องใช้ข้อมือแบบผิดวิธี
- คุณแม่ตั้งครรภ์ อาจเริ่มปวดตั้งแต่ไตรมาสสุดท้าย เนื่องจากเป็นช่วงที่น้ำหนักตัวเพิ่ม ร่างกายมีการสะสมของน้ำและเกลือแร่ร่วมกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ปลอกหุ้มเอ็นบวม และจำกัดการเคลื่อนไหวของเส้นเอ็นที่อยู่ภายในปลอกหุ้มเอ็น ส่งผลให้มีอาการปวดตามมา โดยอาการอาจจะคงอยู่จนถึงหลังคลอด
- คุณแม่ที่เลี้ยงลูกโดยใช้ข้อมือมากๆ เช่น เปิดปิดขวดนม บิดผ้าอ้อม และอุ้มลูก เป็นต้น
- กลุ่มนักกีฬา ที่ใช้งานข้อมือมากเกินไป รวมถึงการจับอุปกรณ์ที่ไม่เหมาะสม
- เพศหญิง เป็นกลุ่มเสี่ยงปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบมากกว่าผู้ชายถึง 8 เท่า
- ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบเรื้อรัง เช่น โรครูมาตอยด์
- พบมากในผู้ที่มีอายุ 30-60 ปี
พักบริหารข้อมือซักหน่อย
- แตะปลายนิ้วหัวแม่มือกับปลายนิ้วชี้ ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นให้ขยับปลายนิ้วหัวแม่มือมาแตะที่ปลายนิ้วก้อย ค้างไว้ 5 วินาที แล้วทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง
- งอข้อมือลงให้มากที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที แล้วเปลี่ยนมากระดกข้อมือขึ้นให้มากที่สุด ค้างไว้อีก 5 แล้วทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง
- หงายฝ่ามือขึ้น กำมือ แล้วค่อยๆ กระดกข้อมือขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นให้ค่อยๆ ดัดข้อมือลงไปตำแหน่งเดิม โดยทำซ้ำจนครบ 10 ครั้ง
- คว่ำมือลง กำมือ แล้วค่อยๆ กระกดข้อมือขึ้น ค้างไว้ 5 วินาที จากนั้นค่อยๆ กดข้อมือลง ค้างไว้อีก 5 วินาที ทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง
- ใช้วัตถุเป็นตัวช่วย เช่น ลูกบอลเล็กๆ โดยบีบวัตถุให้แน่นที่สุด ค้างไว้ 5 วินาที แล้วคลายออก ทำซ้ำสลับไปมาจนครบ 10 ครั้ง
ข้อมืออักเสบเป็นแล้ว ต้องรีบรักษา
แน่นอนว่าการรักษาอาการที่ดี ก็คือ การหยุดใช้งานข้อมือแบบหนักๆ หรือพยายามหลีกเลี่ยงท่าทางที่ต้องกางนิ้วหัวแม่มือออก หรือกระดกนิ้วขึ้น แต่ถ้าหากยังมีอาการปวดมาก อาจต้องใส่เฝือกชั่วคราว กินยาแก้ปวด หรือฉีดยาต้านการอักเสบ ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดและออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็นแข็งแรงขึ้น
หากต้องผ่าตัด โดยผ่าตัดปลอกหุ้มเอ็นเพื่อลดการกดเบียดเส้นเอ็น ช่วยให้เส้นเอ็นเคลื่อนไหวได้ดีขึ้น โดยเป็นการผ่าตัดเล็กเฉพาะที่ ที่มีขนาดเพียงประมาณ 1 เซนติเมตร ใช้เวลาไม่นาน และไม่จำเป็นต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม การอักเสบของเส้นเอ็นมีอยู่หลายระดับ ทำให้ต้องรักษาด้วยวิธีที่แตกต่างกัน!! ทางที่ดี ควรไปพบแพทย์เมื่อมีอาการของเอ็นข้อมืออักเสบ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดและจะได้ทำการรักษาถูกต้องตามอาการมากที่สุด
การกลับมาเป็นซ้ำของอาการเอ็นข้อมืออักเสบ
อาการเอ็นข้อมืออักเสบ หรือ โรคปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ แม้จะรักษาหายแล้วก็อาจกลับเป็นซ้ำได้อีก หากยังมีพฤติกรรมการใช้ข้อมือหนักซ้ำ ๆ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแล้วควรทบทวนหาสาเหตุของอาการปวดข้อมือ เพื่อหลีกเลี่ยงพฤติกรรมดังกล่าว
แม้ภาวะปลอกหุ้มเอ็นข้อมืออักเสบ ไม่สามารถลุกลามไปเป็นโรคอื่นๆ ได้ แต่ภาวะเจ็บปวดบริเวณข้อมือขณะเคลื่อนไหวอาจรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน หรือบางกรณีอาจสร้างปัญหากับการนอนและการทำงาน ดังนั้นหากพบอาการปวดข้อมือ อย่านิ่งนอนใจควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธี
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ และ โรงพยาบาลพญาไท 2