อัลมอนด์วันละ 1 กำมือ ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ-บำรุงสมองลดอัลไซเมอร์
อัลมอลด์ ซุปเปอร์ฟู้ด (Superfood) พืชตระกูลถั่ว กินวันละ 1 กำมือ มีประโยชน์เด่นที่หลากหลาย ลดเสี่ยงโรคหัวใจ ช่วยเบิร์นไขมัน แถมลดอัลไซเมอร์!
อัลมอนด์ (ALMOND) ถั่วขวัญใจของใครหลายคน ที่กินเป็นสแน็คเคี้ยวได้แบบไม่รู้สึกผิด อีกทั้งยังมีประโยชน์หลากหลาย อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและกรดไขมันที่ดี รู้หรือไม่? อัลมอนด์จัดเป็นพืชตระกูลถั่วประเภทเดียวกับพรุน พลัม และพีช รวมไปถึงแอพพริคอท ซึ่งแน่นอนว่าคุณค่าทางสารอาหารของอัลมอนด์ย่อมจะมีมากกว่าพืชตระกูลถั่วที่เป็นพืชคลุมดินทั่วไป
8 ประโยชน์ ของอัลมอนด์
- อัลมอนด์ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ
อัลมอนด์ อุดมไปด้วยสารพัดวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหารอัดแน่นอยู่ในเม็ดเล็ก ๆ
ถั่ว 4 ชนิด อุดมด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระยับยั้งก่อมะเร็ง!
“เทมเป้” ถั่วเหลืองหมัก อุดมโปรตีน-ไฟเบอร์ช่วยการทำงานของลำไส้
แถมยังมีกรดไขมันจำเป็นที่ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) ในร่างกาย เลยมีคุณสมบัติช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจ รวมทั้งต่อต้านอนุมูลอิสระ อันเป็นสาเหตุของโรคต่าง ๆ โดยมีจากผลการวิจัยระบุว่า การรับประทานอัลมอนด์เพียงวันละ 1 หยิบมือ ช่วยลด LDLได้ถึง 4.4% และถ้ารับประทาน 2 หยิบมือต่อวัน ช่วยลด LDL ได้ถึง 9.4%
- อัลมอนด์ช่วยบำรุงสายตา
อัลมอนด์ล้วนแต่เป็นแหล่งที่อุดมด้วยไขมันโอเมก้า 3 ที่มีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา นอกจากนี้ก็ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ สังกะสีและวิตามินอี อันมีสรรพคุณในการช่วยชะลอภาวะจอประสาทตาเสื่อม ว่ากันว่าถั่วอัลมอนด์เพียง 1 กำมือก็ได้วิตามินอี ถึง 50% ของปริมาณที่ควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว
- อัลมอนด์ช่วยเบิร์นไขมัน
เพราะ อุดมไปด้วยโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามิน และไขมันดี จะช่วยเติมเต็มพลังงานและช่วยขับเคลื่อนระบบเผาผลาญของร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มกำลัง เบิร์นไขมันไปได้อย่างราบรื่น ยิ่งคนที่อยากสร้างกล้ามหรือต้องการหุ่นลีน ๆ โปรตีนจากอัลมอนด์เคี้ยวเพลินนี่แหละตัวช่วยที่ดีของคุณเลย
- อัลมอนด์ลดคอเลสเตอรอลในเลือด
กรดไขมันไม่อิ่มตัวในอัลมอนด์และกรดไขมันชนิดดีมีส่วนช่วยลดระดับไขมันชนิดเลวในเลือดได้ ยืนยันจากการศึกษาชิ้นหนึ่งที่พบว่า ผู้ที่รับประทานอัลมอนด์ปริมาณ 1 กำมือทุกวัน ตรวจพบไขมันในเลือดหรือคอเลสเตอรอลลดลง 4.4% และคนที่รับประทานอัลมอนด์สองกำมือต่อวัน ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดจะลดลงประมาณ 9.4% อีกทั้งอัลมอนด์มีแมงกานีส ไรโบฟลาวิน และสังกะสีค่อนข้างสูง จึงเป็นแหล่งที่ดีของพลังงานของร่างกาย ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายฟื้นตัวจากอาการอ่อนเพลียได้ ใครรู้สึกอ่อนแรงจะลองกินอัลมอนด์สัก 1 กำมือดูก็ได้นะคะ
- อัลมอนด์ป้องกันเบาหวาน
การศึกษาจากประเทศอินเดียพบว่า อัลมอนด์จัดเป็นอาหารที่ช่วยปรับสมดุลดัชนีน้ำตาลในเลือดและช่วยลดความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจได้ นอกจากนี้การศึกษาจากประเทศจีนยังพบด้วยว่า อาสาสมัครที่กินอัลมอนด์มีระดับอินซูลินและกลูโคสที่เหมาะสม ดังนั้นอัลมอนด์อาจจะเป็นอาหารที่ช่วยป้องกันโรคเบาหวานและช่วยปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดได้
- อัลมอนด์บำรุงสมอง
อัลมอนด์อุดมไปด้วยสารอาหารที่สำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและสมองค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน E โฟเลต กรดไขมันไม่อิ่มตัว ที่มีส่วนช่วยบำรุงการทำงานของระบบประสาทและสมองด้วยกันทั้งสิ้น นอกจากสารอาหารที่ดีต่อการทำงานของระบบประสาทและสมองแล้ว ในอัลมอนด์ยังมีสารอาหารสำคัญอย่างธาตุเหล็ก ทองแดง และวิตามิน ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นการสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้ระบบไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงสมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สมองไม่ขาดออกซิเจนอันเป็นสาเหตุของโรคสมองเสื่อม ดังนั้นการรับประทานอัลมอนด์จึงช่วยป้องกันสมองเสื่อมได้นั่นเอง
- อัลมอนด์ดีต่อลำไส้
ผลการศึกษาในปี 2016 พบว่า คนที่รับประทานอัลมอนด์ในปริมาณที่เหมาะสมมีส่วนช่วยกระตุ้นแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้ ส่งผลดีต่อการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายสืบเนื่องไป นอกจากนี้อัลมอนด์ยังมีไฟเบอร์ค่อนข้างสูงอีกด้วย จึงช่วยเรื่องขับถ่ายได้มาก ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้อีกด้วย
- อัลมอนด์บำรุงผิวกระดูกและฟัน
ในอัลมอนด์มีสารอาหารบำรุงกระดูกอย่างแคลเซียมและฟอสฟอรัสอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน ซึ่งนอกจากอัลมอนด์จะช่วยเพิ่มสารบำรุงกระดูกให้ร่างกายแล้ว สารอาหารในอัลมอนด์ยังมีส่วนช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก และช่วยส่งเสริมระบบโครงกระดูกให้มีความแข็งแรงมากขึ้นด้วยอีกทั้งยังมีส่วนช่วย เสริมสร้างเซลล์ที่สึกหรอของผิวหนัง รวมถึงเส้นผม ทั้งยังช่วยชะลอริ้วรอยก่อนวัยด้วยนะคะ
อาหารธาตุเหล็กสูง บำรุงเลือด ป้องกันภาวะโลหิตจาง โดยเฉพาะคุณผู้หญิง
ทั้งนี้แม้ อัลมอนด์จะดูเหมือนเป็นถั่ว ซุปเปอร์ฟู้สแค่ไหน แต่ควร ควรจำกัดปริมาณอัลมอนด์ให้ไม่เกิน 14 เม็ดต่อการรับประทาน 1 ครั้ง เพราะจำนวนเท่านี้จะให้พลังงานกับเราราว ๆ 98 กิโลแคลอรี หากกินมากกว่านี้อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ อย่าลืมเช็กก่อนว่าแพ้ถั่วหรือไม่ เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงสุขภำได้ ที่สำคัญควรกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์สารนิเทศทางอาหาร และ โรงพยาบาลเปาโล
อาหารควบคุมความดันโลหิตสูง อาการไม่กำเริบลดเสี่ยงโรคหัวใจ-ไตวาย