“ควินัว” อาจช่วยควบคุมน้ำตาล-ไขมันในเลือด คนแพ้กลูเตนกินได้!
สายสุขภาพดูแลหุ่นคงไม่มีใครไม่รู้จัก “ควินัว” ที่จัดเป็นธัญพืชประเภทเทียม (Pseudo-Cereal) ประโยชน์เยอะอาจช่วยลดน้ำหนักต้านการอักเสบ
ควินัว (Quinoa) เป็นเมล็ดพืชของต้น Chenopodium Quinoa ที่นิยมปลูกกันในประเทศเปรูและโบลิเวีย มีความแตกต่างจากธัญพืชอื่นๆ อย่างข้าวโอ๊ตหรือข้าวบาร์เลย์ที่เป็นเมล็ดพืชตระกูลหญ้า แต่ด้วยวิธีการบริโภคและคุณค่าทางสารอาหารของควินัวที่คล้ายคลึงกับธัญพืชทั่วไปมาก ควินัวจึงถูกจัดอยู่ในธัญพืชประเภทเทียม (Pseudo-Cereal) หรือพืชที่สามารถนำเมล็ดมารับประทานได้เหมือนธัญพืช แต่ไม่ได้จัดอยู่ในประเภทหญ้า
กลุ่มอาหารปลอดกลูเตน (Gluten Free) “แพ้กลูเตน” กินอะไรปลอดภัยที่สุด?
ประโยชน์ “ผักตระกูลกะหล่ำ” บริโภคเป็นประจำลดเสี่ยงสารพัดมะเร็ง
ควินัวนี้อุดมด้วยสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อร่างกายแม้ว่าจะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง แต่ก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์หรือกากใยอาหารที่สูงเช่นกัน จึงทำให้ย่อยง่าย อีกทั้งยังปราศจากโปรตีนกลูเตน จึงเหมาะกับผู้ที่แพ้กลูเตนด้วย โดยควินัวที่สุกแล้ว 1 ถ้วย จะให้พลังงาน 222 แคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 39 กรัม โปรตีน 8 กรัม และมีสารอาหารสำคัญอื่น ๆ เช่น แมงกานีส แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส โฟเลต ทองแดง และธาตุเหล็ก เป็นต้น
ประโยชน์ของควินัว
นอกจากควินัวจะมีประโยชน์ในเชิงโภชนาการแล้ว การรับประทานควินัวอาจส่งผลดีต่อสุขภาพได้อีกด้วย
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
การรับประทานควินัวอาจช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคเบาหวานประเภทที่ 2 และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด นอกจากนั้น งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ทดสอบคุณสมบัติด้านเดียวกันนี้ในหนูทดลองก็พบว่าควินัวอาจช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและลดผลกระทบอื่น ๆ ที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงได้ อย่างไรก็ตาม งานวิจัยดังกล่าวเป็นเพียงการทดลองขนาดเล็ก จึงควรมีการค้นคว้าเพิ่มเติมกับกลุ่มคนจำนวนมากต่อไป
- ควินัวอาจช่วยลดน้ำหนัก
ควินัวอาจมีคุณสมบัติช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากควินัวมีโปรตีนปริมาณมากเมื่อเปรียบเทียบกับอาหารที่คล้ายคลึงกันอย่างข้าว ข้าวโพด และธัญพืชไม่ขัดสี ช่วยกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญในร่างกาย ช่วยลดความหิว และอาจช่วยป้องกันการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนอกจากนี้ ควินัวยังมีเส้นใยอาหารสูงช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ดีต่อสุขภาพลำไส้และการขับถ่ายอีกด้วย
- ลดระดับไขมันในเลือด
การรับประทานควินัวอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่เผชิญภาวะไขมันในเลือดสูง โดยมีงานวิจัยที่พบว่าการรับประทานควินัววันละ 50 กรัมติดต่อกันนาน 6 สัปดาห์ อาจช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลรวม คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี และไขมันไตรกลีเซอไรด์ด้วย
- ช่วยต้านการอักเสบ
มีความเชื่อว่าอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอาจช่วยต้านการอักเสบในร่างกายได้ ซึ่งควินัวก็ขึ้นชื่อว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเช่นกัน โดยงานวิจัยชิ้นหนึ่งกล่าวว่าสารซาโปนิน (Saponin) ในควินัวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และอาจช่วยยับยั้งการผลิตสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบของเซลล์ในร่างกายได้ถึง 25-90 เปอร์เซ็นต์
วิธีการปรุงควินัวให้อร่อย!
ควรล้างควินัวด้วยน้ำสะอาดเพื่อกำจัดสารตกค้างและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ออก จากนั้นนำควินัวใส่ลงในตะแกรงแล้วล้างโดยให้น้ำไหลผ่าน สะเด็ดน้ำออกแล้วนำควินัวลงไปคั่วในกระทะประมาณ 5 นาที ก่อนนำไปต้มหรืออบเพื่อรสชาติและกลิ่นหอมเหมาะแก่การรับประทานเมื่อสุกแล้วจะนิ่มๆ กรุบๆ มีความหนึบเล็กน้อย ระหว่างต้มสามารถเติมน้ำมันมะกอก หรือเกลือเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติได้
3 ธัญพืชยอดนิยม กินแล้วอารมณ์ดี ช่วยบำรุงสมองและหัวใจ
อย่างไรก็ตามควินัวค่อนข้างเป็นอาหารที่ปลอดภัยแต่ควรรับประทานควินัวในปริมาณที่เหมาะสมเสมอ เพราะสารไฟเตต (Phytates) ในควินัวอาจยับยั้งการดูดซึมแร่ธาตุสำคัญบางชนิดอย่างธาตุเหล็กและสังกะสีได้ นอกจากนี้ การรับประทานควินัวอาจมีส่วนทำให้แร่ธาตุต่าง ๆ รวมตัวกันจนเกิดเป็นนิ่วในไตได้ นอกจากนี้ควรเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารในควินัว ด้วยการเพิ่มผักผลไม้ที่ชื่นชอบ หรือทานพร้อมกับของหวานเพื่อสุขภาพอย่างโยเกิร์ตก็ดูดีต่อสุขภาพไม่น้อย!
ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpadและ เกร็ดความรู้
“โฮลเกรน” ขนมปังเพื่อสุขภาพไฟเบอร์สูงลดกินจุกจิกควบคุมไขมัน
5 เทรนด์กินอาหารเพื่อลดน้ำหนัก แบบไม่ต้องอดแต่ต้องเลือกให้เหมาะ!