“เผือก” พืชหัวยอดนิยม ประโยชน์เยอะ ไขข้อสงสัยทานลดน้ำหนักได้หรือไม่ ?
เผือก พืชหัวนิยมนำไปประกอบอาหารทั้งของคาวและของหวาน มีประโยชน์หลายอย่างแต่ก็ควรทานแต่พอดีเพราะมีแคลอรีสูง ย้ำไม่ควรทานดิบเพราะมีสารซาเลต) มีฤทธิ์ทำให้คันได้
“เผือก” เป็นพืชหัวที่นิยมในการนำมาทำทั้งของคาวและของหวาน อันที่จริงแล้วมีมากกว่า 200 พันธุ์ ในเมืองไทยเท่าที่ทราบจะมีอยู่ด้วยกัน 4 ชนิด ได้แก่ เผือกหอม เผือกเหลือง เผือกไม้ หรือ เผือกไหหลำ และเผือกตาแดง โดยหัวเผือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นอาหารคาวหวานได้หลายอย่าง เช่น เผือกเชื่อม เผือกทอด เผือกเส้นกรอบเค็ม เผือกกวน เผือกฉาบ เผือกอบเนย เผือกหิมะ แกงบวดเผือก ขนมบัวลอยเผือกมะพร้าวอ่อน สังขยาเผือก ข้าวอบเผือก

นอกจากนี้ ยังมีเมนู ข้าวเหนียวปิ้งใส่เผือก เค้กเผือก หม้อแกงเผือก เม็ดขนุนเผือก ขนมเผือก ขนมกุยช่ายไส้เผือก หรือนำไปใช้กวนเป็นไส้ขนมต่าง ๆ หรือใช้ทำเป็นซุปเผือปลากะพง หัวปลาเผือกหม้อไฟ ข้าวต้มเผือก เผือกทรงเครื่อง เป็นต้น จะเห็นได้ว่าเผือกสามารถทำได้หลากหลายเมนูจริงๆ
ประโยชน์ของเผือก
- ใบ ก้านใบ และยอดของต้นเผือกสามารถนำมารับประทานเป็นผักได้ โดยก้านใบสามารถนำมาใช้ประกอบอาหารได้หลายอย่าง เช่น ทำแกง หรือนำไปทำเป็นผักดอง
- หัวเผือกสามารถนำมาใช้ทำเป็นอาหารคาวหวานได้หลายอย่าง นอกจากนี้ยังนำมาใช้ทำเป็นแป้งเผือกเพื่อใช้ทำขนมต่าง ๆ เช่น ขนมปัง หรือทำอาหารทารก ทำเครื่องดื่ม ฯลฯ หรือใช้เป็นอาหารเพื่อป้องกันโรคแพ้บางอย่างของเด็กทารก และใช้แทนธัญพืชในการรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะลำไส้
หัวเผือกเป็นอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง มีโปรตีน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม วิตามินบี 1 วิตามินซี และสารอาหารอื่น ๆ เกือบครบทุกชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย (แม้ว่าจะมีปริมาณไม่สูงมากนัก) เผือกจึงเป็นอาหารที่ให้พลังงานและบำรุงสุขภาพไปพร้อมกัน มีรสหวานจืดอมมันนิดหน่อย ย่อยได้ง่าย เหมาะทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก เพราะเผือกมีแคลอรีสูง แต่อาจสามารถทานแทนข้าวได้ในปริมาณที่เหมาะสม โดยเผือกมีคุณค่าทางโภชนาการของหัวเผือกเฉพาะส่วนที่กินได้ ต่อ 100 กรัม ทางกรมส่งเสริมการเกษตรได้ระบุไว้ว่า ให้พลังงาน 117 กิโลแคลอรี
ข้อควรระวังในการทานเผือก
หัวและทั้งต้นมีผลึกแคลเซียมออกซาเลต (Calcium oxalate) มีฤทธิ์ทำให้คัน จึงไม่ควรรับประทานแบบดิบ ๆ ต้องนำมาผ่านการต้มหรือหมักก่อนถึงทานได้ สำหรับบางรายก็อาจมีอาการแพ้เผือกได้ แม้จะทำให้สุกแล้วก็ตาม โดยอาการที่พบ คือ คันในช่องปาก ทำให้ลิ้นชา เป็นต้น และการรับประทานเผือกในปริมาณมากเกินไปจะทำให้ม้ามทำงานได้อย่างไม่เป็นปกติ อย่างไรก็ตามควรทานคู่กับอาหารอย่างอื่นให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลายด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : medtha