แพทย์ย้ำพิษ PM2.5 สูดต่อเนื่องเสี่ยงมะเร็งปอด

นายแพทย์ศีลวันต์ สถิตย์รัตนชีวิน อายุรแพทย์โรคระบบการหายใจและภาวะวิกฤต โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ให้ข้อมูลว่า ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ประชาชนทุกกลุ่มได้รับผลกระทบเหมือนกัน แต่จะไปหนักที่กลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี หรือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัวจะได้รับผลกระทบมากกว่ากลุ่มอื่น

คุณหมอ บอกว่า ผลกระทบสุขภาพจากการสูดฝุ่น PM 2.5 ส่วนใหญ่จะส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ จะมีอาการคัดจมูก หายใจไม่ออกซึ่งประชาชนที่มีอาการเหล่านี้อย่าชะล่าใจ เพราะอาจจะเป็นอาการที่มาจากฝุ่นได้

สธ. เผย ค่าฝุ่นยังพุ่งไม่หยุด อยู่ระดับสีแดง 15 จังหวัด

สธ. เผยปี 68 มีผู้ป่วยเข้าใช้คลินิกมลพิษออนไลน์ เกือบ 300 ราย

แม้อาการเหล่านี้จะไม่ได้มีผลกระทบอะไรมาก แต่อาจจะกระตุ้นให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้ เช่น ผู้ที่เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ ถ้าได้รับผลกระทบจากฝุ่นเพิ่มเข้าไป พอภูมิคุ้มกันลดน้อยลง ก็อาจจะทำให้โรคหัวใจเป็นเร็วขึ้น หรือรุนแรงขึ้น

นพ.ศีลวันต์ ย้ำว่า ฝุ่น PM2.5 อันตรายกว่าที่เราคิด ยิ่งสูดดมระยะยาว ยิ่งมีผลเสียต่อสุขภาพ เพราะฝุ่นส่งผลกระทบรุนแรงต่อโพรงจมูก ระบบหายใจ ส่วนที่อักเสบเรื้อรังก็อาจจะเป็นภูมิแพ้ หอบหืด แต่ถ้าสูดฝุ่นเข้าสู่ร่างกายนานขึ้นไปอีกก็อาจจะส่งผลถึงกับเกิดเป็นโรคมะเร็งปอดได้

คุณหมอ อธิบายว่า ฝุ่นPM2.5 ซึ่งมีขนาดเล็กมากสุดท้ายจะลอยลงไปเข้าสู่ถุงลมที่เล็กที่สุดในปอด และสามารถแพร่ผ่านผนังหลอดเลือดเข้าไปสู่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำให้เกิดการอักเสบทั้งหมดตามมา ส่วนคนที่เคยเป็นโรคโควิดมาก่อนแล้วเกิดมีอาการภูมิแพ้หรือมีการอักเสบหลงเหลือในร่างกายอยู่ เมื่อได้รับฝุ่น PM2.5 เข้าไปก็จะทำให้ป่วยได้ง่ายขึ้น

นพ.ศีลวันต์ ให้คำแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพเพื่อป้องกันผลกระทบจากฝุ่น PM2.5 ทั้งการกินอาหารที่มีประโยชน์ การดื่มน้ำ และพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องออกจากบ้านก็ต้องป้องกันด้วยการสวมหน้ากากอนามัยแต่ต้องเป็นหน้ากากอนามัยชนิด N95 ส่วนประชาชนที่ชอบออกกำลังกายกลางแจ้ง หากมีสถานการณ์ฝุ่นแนะนำว่าให้เปลี่ยนมาออกกำลังกายในร่ม เพราะออกกำลังกายในที่โล่งช่วงที่มีฝุ่นก็จะเสี่ยงเกิดการอักเสบซึ่งเป็นผลเสียมากกว่าผลดีจากการออกกำลังกาย