นายกฤษฎา ตันเทอดทิตย์ ส.ส.หนองคาย อดีตรองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรม คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตามที่ศาลได้มีคำตัดสินคดีของ กปปส. จนทำให้รัฐมนตรีที่มาจากกลุ่ม กปปส. ต้องหลุดออกจากตำแหน่ง และ ต้องมีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)ครั้งใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น คณะทำงานเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย จึงอยากเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้พิจารณาปรับเปลี่ยน ครม.เศรษฐกิจของรัฐบาลทั้งหมดแบบยกแผง
“กฤษฎา” แนะ ปรับประเทศเป็นระบบดิจิตอล แก้ทุจริตคอรัปชั่น
ทั้งนี้เพราะรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้บริหารเศรษฐกิจล้มเหลวมาโดยตลอด จนกระทั่งต้องยอมรับและไม่อาจฝืนกระแสสังคมจึงต้องปรับทีมนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ 4 กุมาร ออกไป แต่หลังจากปรับครม. แล้ว กลับยิ่งไม่มีผลงาน เศรษฐกิจกลับยิ่งทรุดต่ำลงหนักกว่าเดิม รัฐบาลยิ่งไม่สามารถสร้างความเขื่อถือและความมั่นใจให้กับประเทศไทยได้ ซึ่งหนักหนาสาหัสและเละยิ่งกว่าสมัยที่ทีมนายสมคิดและ 4 กุมารบริหารเสียอีก
นอกจากนี้ครม.เศรษฐกิจชุดนี้ ไม่มีเครดิต ขาดความน่าเชื่อถือ ขาดความสามารถ ไม่มีฝีมือ ขาดประสบการณ์ และบริหารผิดพลาดมาโดยตลอด แม้กระทั่งเรื่องแจกเงินที่เป็นเรื่องง่ายสุด แต่ก็ยังทำให้สับสนจนเละตุ้มเป๊ะได้ นับประสาอะไรกับเรื่องยากๆ เช่นการจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งไม่น่าจะทำได้ อีกทั้งประชาชนยังไม่เห็นแนวทางว่า ครม. เศรษฐกิจของรัฐบาล จะบริหารเศรษฐกิจไปในทิศทางใด มองไปทางไหนก็มีแต่ความมืดมน เศรษฐกิจไทยจะยิ่งดำดิ่งลงไปอีก
ดังนั้นจึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้พิจารณาปรับเปลี่ยน ครม. เศรษฐกิจ ในทุกกระทรวง เพื่อปรับปรุงการบริหารให้ดีขึ้น โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจที่ขาดความรู้ความสามารถก็ควรจะออกไปเป็นคนแรกและตามด้วยลูกทีมทั้งหมด และหาคนที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงมาช่วยบริหาร โดยหวังว่าจะมีผู้ที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงยินดีเสียสละมาช่วยประเทศ เพราะที่ผ่านมาไม่มีคนที่มีความรู้ความสามารถและมีเครดิตพอในสังคมคนใดอยากเปลืองตัวลงทำงานให้กับพล.อ.ประยุทธ์ ที่เป็นผู้นำที่ไม่มีความรู้ ขาดความสามารถ ไม่มีวิสัยทัศน์ แถมยังดื้อรั้นเศรษฐกิจไทยถึงได้ย่ำแย่มาตลอดหลายปีนี้
“พิชัย” ยก 4 ข้อ “บิ๊กตู่” ปรับครม.แก้ปัญหาตัวเองมากกว่าประเทศชาติ
อย่างไรก็ตามนอกจากจะต้องเปลี่ยนหัวหน้าทีมเศรษฐกิจแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ควรจะต้องพิจารณาปรับ ครม. เศรษฐกิจที่มีปัญหาและไม่สามารถตอบข้อซักถามในการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้ชัดเจนได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การให้สัมปทานที่ดิน 4 แสนไร่กับบริษัทเหมืองทองอัครา การทุจริตถุงมือยาง การยกเลิกการประมูลรถไฟสายสีส้ม การรับผลประโยชน์จากการขนแรงงานต่างด้าวเถื่อน ทุจริตการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์พลังงาน เป็นต้น ซึ่งประชาชนยังคาใจกันอย่างมากเพราะเชื่อว่าต้องมีการทุจริต และรัฐบาลก็ยังไม่ได้ชี้แจงให้กระจ่างและโปร่งใสได้
“ไหนๆพล.อ.ประยุทธ์ จะปรับ ครม. ครั้งใหญ่ทั้งที ก็ควรจะคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่ปรับเพื่อรักษาอำนาจของตัวเอง หรือแค่เพื่อประคองการเมืองภายในพรรคเท่านั้น เพราะหากการบริหารประเทศเป็นไปอย่างในปัจจุบัน เศรษฐกิจไทยก็คงรอวันล่มสลายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และพล.อ.ประยุทธ์ จะต้องกลายเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว” นายกฤษฎา
นายกฤษฎา กล่าวว่า อยากให้ประชาชนได้เปรียบเทียบแนวคิดของ ครม. เศรษฐกิจของพล.อ.ประยุทธ์ กับแนวคิดของคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กลุ่มแคร์ และ พี่ Tony ใน Clubhouse ซึ่งเชื่อว่าประชาชนจะเห็นความแตกต่างได้อย่างชัดเจน และจะทราบดีว่าใครจะสามารถนำพาประเทศให้พัฒนาต่อไปได้ดีกว่ากัน
“เพื่อไทย” เสนอ 6 มาตรการ เร่งช่วยเหลือ SMEs ก่อนตายหมด