กลุ่มสร้างไทยแม้จะไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าวตามเหตุผลที่เคยแถลงไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่โดยที่รัฐธรรมนูญมาตรา ๒๑๑ วรรคสี่บัญญัติให้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้เป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น เพื่ออนุวัตให้เป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและเพื่อนำพาประเทศออกจากวิกฤตทางการเมือง กลุ่มสร้างไทยจึงขอเสนอให้รัฐสภาและรัฐบาลได้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
มติศาลรธน. ชี้ รัฐสภามีอำนาจแก้รัฐธรรมนูญได้ แต่ต้องทำประชามติ 2 รอบ
(๑) รัฐสภาควรเลื่อนการลงมติการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในวาระที่สามออกไปก่อน เพื่อรอการทำประชามติสอบถามประชาชนตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ เพื่อรักษาสมดุลแห่งอำนาจในการลงมติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญระหว่างสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และสมาชิกวุฒิสภาให้ยังคงเป็นเช่นเดิมไปพลางก่อน
(๒) โดยที่ญัตติขอแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังพิจารณาในรัฐสภาเป็นร่างของพรรคร่วมรัฐบาล อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่กระทบถึงประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีควรเร่งดำเนินการปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฏรและประธานวุฒิสภาเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีการออกเสียงประชามติ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. ๒๕๕๒ ที่ยังมีผลบังคับใช้ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ ๕๗/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๗ ข้อ ๓
“กลุ่มสร้างไทย” ยื่น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ขอให้วินิจฉัย ปมอำนาจรัฐสภาแก้รธน. ก่อนลงมติวาระ 3
(๓) กลุ่มสร้างไทยเห็นว่าทางออกเดียวที่จะนำพาประเทศชาติออกจากวิกฤตความขัดแย้งทางการเมืองคือการคืนอำนาจให้ประชาชนได้เป็นผู้กำหนดกติกาการอยู่ร่วมกันและกติกาทางการเมืองของประเทศนี้ใหม่ โดยการเลือกตั้ง สสร. มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้เป็นไปตามความต้องการของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ รัฐบาลจึงควรเร่งดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติในประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยโดยเร็วซึ่งสามารถจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายในไม่เกิน ๙๐ วัน ตามกฎหมายประชามติที่ยังมีผลบังคับใช้ เพื่อให้ปัญหาทางการเมืองของประเทศได้รับการคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีต่อไป
กลุ่มสร้างไทย แนะ จับตาแก้รัฐธรรมนูญ ล้มให้มีส.ส.ร. แก้รายมาตราแทน