กลุ่มสร้างไทย แนะ จับตาแก้รัฐธรรมนูญ ล้มให้มีส.ส.ร. แก้รายมาตราแทน
“กลุ่มสร้างไทย” ยื่น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ขอให้วินิจฉัย ปมอำนาจรัฐสภาแก้รธน. ก่อนลงมติวาระ 3
วันนี้ 17 มี.ค. 2564 เรียกว่ามีหลากหลายความเห็นในการตีความคำวินิจฉัยรัฐธรรมนูญ ฝ่ายค้านยืนยันว่าลงมติวาระ 3 ได้ ส่วนสมาชิกวุฒิสภา มองว่าไม่ได้ จะเห็นว่าแต่ละฝ่ายมีหลากหลายความเห็น จะการประชุมวันนี้จะออกในทิศทางใดยังคงต้องติดตาม พีพีทีวีประมวลท่าทีต่างๆ ของแต่ละฝ่าย
อย่างท่าทีของฝ่ายค้านมีความเห็นจาก นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ยืนยันพรรคการเมืองฝ่ายค้านเดินหน้าโหวตวาระ 3 ซึ่งเห็นว่าจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีการตีความในข้อความใดว่าไม่สามารถโหวตวาระที่ 3 ได้ โดยยอมรับว่ากังวลหากรัฐสภาไม่ดำเนินการตามมาตรา 256 น่าวิตกกังวลมากกว่า ซึ่งเมื่อพิจารณาผ่านวาระที่สองแล้วต้องเว้นไว้ 15 วันก่อนที่จะเข้าสู่การพิจารณาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3
ทั้งนี้เห็นว่ายังมีความเห็นที่เห็นว่ารัฐสภาสามารถเดินหน้าโหวตได้ รวมถึงเหตุผลจากนักวิชาการ ทำให้ฝ่ายค้านจึงยืนยันท่าทีเดิมในการเดินหน้าให้ความเห็นชอบในวาระที่ 3 ขณะเดียวกันก็น้อมรับคำตัดสินและคำแนะนำของศาล
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรคที่มีนโยบายประกาศต่อประชาชนต่อสังคมโดยทั่วไปว่าเขาจะแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเร่งด่วนเช้าวันนี้ มีท่าทีที่สำคัญจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เสนอให้ที่ประชุมรัฐสภา ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้เกิดความชัดเจนอีกครั้งหนึ่งว่าขอบเขตของรัฐสภาสามารถที่จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในญัตติวาระ 3 ได้หรือไม่ และรัฐสภามีอำนาจในจะแก้ไขโหมด 15/1 เพื่อที่จะให้มีการแก้ไขทั้งฉบับหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออก เชื่อว่าทุกคนจะยอมรับ
ด้าน นายสมชาย แสวงการ ส.ว. อภิปรายในสภาว่า คำวินิจฉัยกลางของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ชี้ชัดเจนว่าหากจะแก้ไขทั้งฉบับนั้นทำไม่ได้ จึงเสนอญัตติว่าลงมติในวาระสามไม่ได้และขอให้ที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบกับความเห็นของตนเอง
ส่วนฝ่ายกฎหมายสภาได้มีความเห็นที่เปลี่ยนไปหลังจากที่ศาลมีคำวินิจฉัยกลางออกมา โดยเห็นว่าไม่ควรลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระที่ 3 ตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีลักษณะไม่เห็นด้วยกับการลงมติวาระที่ 3 เพราะควรต้องมีการทำประชามติก่อน