“ชัยวุฒิ” สั่งเอาผิด 147 มือโพสต์ข้อมูลเท็จ ขู่ดารา-อินฟลูเอนเซอร์ อย่าใช้โจมตี รบ.


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รมว.ดีอีเอส เตรียมดำเนินคดี มือโพสต์ข้อมูลเท็จ จากสถานการณ์ชุมนุม 18 ก.ค. 64 จำนวน 147 ราย พบมากสุดบนทวิตเตอร์ พร้อมเตือนดารา อินฟลูเอนเซอร์ อย่านำข้อความเหล่านั้นไปโจมตีรัฐบาล เพราะจะเป็นการสร้างเฟกนิวส์

“บิ๊กตู่” เชื่อ 14 วัน สถานการณ์ดีขึ้น ขอทุกคนอดทน ผ่านช่วง “หัวเลี้ยวหัวต่อ”

“บิ๊กตู่” สั่ง ใช้เงินเดือน 3 เดือน ทำ "กล่องยังชีพ" แจกผู้ติดเชื้อรักษาเบื้องต้น

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า จากกรณีสถานการณ์การชุมนุมที่ผ่านมา และมีการโพสต์หรือส่งต่อข้อความที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์การชุมนุมและใช้โซเชียลมีเดีย กระทรวงดิจิทัลฯ พบว่ามีการโพสต์หรือแชร์ข้อความที่เข้าข่ายการกระทำความผิด ทั้งหมด 147 ราย ประกอบด้วย จากเฟซบุ๊ก 15 ราย ทวิตเตอร์ 132 ราย ซึ่งทั้งหมดนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป

สำหรับการโพสต์หรือแชร์ข้อความผิดกฎหมายลงในระบบคอมพิวเตอร์/ผ่านโซเซียล จะมีโทษ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 ม.14 (3) การนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดใดอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ตามประมวลกฎหมายอาญา ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ และกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานติดตามความเคลื่อนไหวสถานการณ์ชุมนุมโดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ นอกจากติดตามแล้วก็จะสืบค้นถึงต้นโพสต์ แม้จะเป็นอวตารก็จะหาตัวให้ได้เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำไปดำเนินคดีต่อไป

 

“ที่สำคัญกลุ่มดารานักแสดง Influencer เป็นบุคคลสาธารณะที่ประชาชนรักและศรัทธา ขอความกรุณาอย่าใช้สิ่งเหล่านี้เคลื่อนไหวทางการเมืองโจมตีรัฐบาล เพราะสิ่งที่ทำเป็นการบิดเบือนข้อมูล เป็นการสร้างเฟกนิวส์ขึ้นในระบบโซเชียลมีเดีย ท่านพูดแต่ว่าทุกวันนี้มีคนตายเป็นจำนวนมากเพราะโควิดเนื่องจากวัคซีนไม่ดีเป็นความผิดของรัฐบาล แล้วมันจริงหรือไม่ ขอให้อย่ามองเพียงด้านเดียว ต้องนึกถึงสิ่งที่รัฐบาลได้ทำมาได้จัดหาวัคซีนมาอย่างดีตามมาตรฐาน เทียบกับประเทศเพื่อนบ้านเราตอนนี้” นายชัยวุฒิกล่าว

 

นายชัยวุฒิ  กล่าวต่อว่า ปัจจุบัน หากมองภาพรวมในภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทย ได้รับการฉีดวัคซีนเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคนี้ ซึ่งช่วงวิกฤติที่ผ่านมา ทุกภาคส่วนของประเทศไทย ได้ช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่เพื่อให้สถานการณ์การระบาดโควิด-19 คลี่คลายให้เร็วที่สุด จึงจำเป็นจะต้องได้รับความร่วมมือและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับภัยโควิด บนพื้นฐานความปลอดภัยและความรับผิดชอบต่อสังคมในสถานการณ์นี้

 

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยโดยรวมของประเทศ จากการชุมนุมที่ผ่านมา ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการแจ้งเตือนประชาชนผู้ร่วมชุมนุมที่ผ่านมาหลายครั้ง โดยแจ้งว่าผู้ที่มีการชักชวน เชิญชวน ไม่ว่าด้วยประการหนึ่งประการใด ผ่านสื่อต่างๆ รวมทั้งสื่อโซเชียล จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ และเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ อีกส่วนหนึ่งด้วย

รวมทั้ง ได้มีการประสานข้อมูลกับ รมว.ดีอีเอส เพื่อดำเนินการพิจารณาดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมาได้ประสานงานกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพ

 

คอนเทนต์แนะนำ
วิจัยใหม่ชี้ ฉีด “จอห์นสันฯ” เข็มเดียว ต้านโควิด-19 "เดลตา" ได้ลดลง
เผยรายชื่อ 51 รพ.เอกชนจัดซื้อวัคซีน “โมเดอร์นา” 1.8 ล้านโดส

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP การเมือง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ