เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 ที่โถงแถลงข่าวตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและผู้อำนวยการ ศบค. พร้อมด้วยรัฐมนตรีบางส่วน ปลัดสาธารณสุข ภาคเอกชน ธุรกิจ ประธาน ส.อ.ท. ผู้ว่าการ ททท. แถลงภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการเตรียมการให้พร้อม ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ส่วนราชการ ทุกกระทรวง ทุกหน่วยงานต้องร่วมมือกันดำเนินการให้ได้ เพื่อให้ทันตามกรอบเวลา 1 พฤศจิกายน นี้
WHO อนุมัติฉุกเฉินแล้ว วัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซเนก้า "ล็อตผลิตในไทย"
พายุ “คมปาซุ” แผลงฤทธิ์ ฝนถล่มทั่วไทย อีสานหนักสุด กทม.โดน 60%
กล่าวถึงมาตรการต่าง ๆ ที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้ชาวต่างประเทศที่เข้ามาในประเทศไทย และมาตรการรองรับของเรา เพื่อทำให้เกิดความพร้อมมากที่สุด เราต้องใช้เวลาที่เหลืออยู่ในเดือน ต.ค. และ พ.ย. เพื่อพิจารณาทั้งการเปิดประเทศและการผ่อนคลายต่าง ๆ โดยอาศัยกรอบในเรื่องสาธารณสุขในการพิจารณา เราต้องเตรียมความพร้อมในทุกด้าน ในส่วนการเดินทางของประเทศต่าง ๆ วันนี้มีหลายประเทศมีข้อเสนอต้องการเข้าประเทศไทย แต่เราต้องพิจารณาให้รอบคอบ ต้องมีการปรับเกณฑ์ประเทศต่าง ๆ ซึ่งเราตั้งเกณฑ์มานานแล้ว
กทม. งัดแผน 5 ด้านรับมือ “คมปาซุ” จัดตั้งศูนย์แก้ปัญหาน้ำท่วม
"ผมและทุกคนขอความร่วมมือจากประชาชน ว่าเรื่องนี้อย่างน้อยจะเป็นจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ที่ช่วยให้คนหลายภาคส่วนในประเทศไทย น่าจะเริ่มกลับมาทำมาหากินและเริ่มตั้งตัวได้ดีอีกครั้ง เราก็ต้องพยายามดึงนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศให้เข้ามาในประเทศมากขึ้น ให้สอดคล้องกับศักยภาพของประเทศไทย และดำเนินการในลักษณะที่เหมาะสม"
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุต่อไปว่า "การประชุมวันนี้แสดงให้เห็นชัดเจนว่า เวลาที่คนไทยร่วมมือกัน เราจะสามารถทำสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้เสมอ ผมทราบว่าทุกฝ่ายต้องทำงานอย่างหนัก เพื่อทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ภายใน 2 สัปดาห์ที่เหลืออยู่นี้ ผมขอขอบคุณทุกฝ่ายโดยเฉพาะฝ่ายเศรษฐกิจ รัฐมนตรีทุกคน ภาคเอกชนซึ่งต้องร่วมมือกัน มาตรการต่าง ๆ เหล่านี้คงไม่ใช่เฉพาะต่างประเทศ คงต้องเตรียมการรองรับคนไทยที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศด้วยในกติกาเดียวกัน
วันนี้ ผมมายืนยันถึงความพร้อมของเรา ว่าเราจะร่วมมือ จับมือไปด้วยกัน ในการพลิกฟื้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง ตามศักยภาพที่เรามีอยู่มากมายในขณะนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนและชาวต่างประเทศในประเทศไทยช่วยประชาสัมพันธ์ว่าประเทศไทยมีความพร้อมแค่ไหน"