เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อาจชิงยุบสภา ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2565 เพื่อหนีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า พรรคเพื่อไทยยังมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะชิงยุบสภาฯ ก่อนที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังมีปัญหาเสียงสนับสนุนที่ปริ่มน้ำ หลังจาก ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และพวกรวม ออกไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทย
"ประยุทธ์" ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจการทำงานของรัฐบาล
ชาวเน็ตตาดี แห่แชร์คลิปวินาทีคล้าย "แตงโม" ตกเรือ อาจเป็นหลักฐานใหม่
"ผมก็เคยบอกว่าให้ลุงตู่อยู่ให้ถึง 22 พฤษภา จะได้รู้ว่านรกมีจริงไหม และขณะเดียวกันถ้าพรรคเพื่อไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 แล้ว พระรามตู่ยุบสภาไม่ได้นะ คุณต้องรออภิปรายจนจบแล้วต้องยกมือก่อน ซึ่งขณะนี้เขามั่นใจหรือว่าเสียงยกมือเขาเพียงพอ ดูได้จากการประชุมสภาฯ สมัยที่ผ่านมา ที่เพิ่งปิดไป ในสัปดาห์หนึ่งมีประชุม 3 วัน สภาฯล่ม 2 วัน อีกวันที่ไม่ล่มเพราะประธานสภาฯ ชิงปิดก่อน และก็ล่มทุกอาทิตย์จนนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว"
ส่วนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า มี 260 เสียง ที่พร้อมยกมือช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายยุทธพงศ์ มองว่า หลายคนมีความสงสัย 260 เสียงเอามาจากไหน แม้แต่ ร.อ.ธรรมนัส ก็สงสัยว่าไปเอามาจากไหน พร้อระบุอีกว่า ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ มั่นใจตัวเลขนี้ ก็อย่าเพิ่งยุบสภาหนีก็แล้วกัน
เมื่อถามว่า 260 เสียง จะรวมถึงงูเห่าที่ฝากเลี้ยงไว้ตามพรรคฝ่ายค้านหรือไม่ นายยุทธพงศ์ ตอบประเด็นนี้พร้อมกับท้าทายว่า "งูเห่าก็โชว์ตัวออกมาสิ นี่จะเลือกตั้งแล้ว ทุกคนก็รู้ว่าภายในปีนี้ จะเดือนไหน วันไหนเท่านั้น งูเห่าก็โชว์ตัวมา ยกมือมาเลย ประชาชนเขาจะได้ลงโทษ ประชาชนเขาเลือกคุณมาอยู่พรรคการเมืองหนึ่ง ไปยกมือให้พรรคการเมืองหนึ่ง ประชาชนไม่ได้โง่นะทุกวันนี้ คุณก็โชว์ตัวมาเลย ประชาชนเขาจะได้สั่งสอนคุณ ไอ้พวกที่เป็นงูเห่า โชว์ตัวออกมาเลย อย่ามาทำลับ ๆ ล่อ ๆ กล้าไหมล่ะ"
นายยุทธพงศ์ ยังกล่าวด้วยว่า วันที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คนที่เป็นงูเห่าก็ควรที่จะโชว์ตัวออกมาให้เห็น และจะได้รู้กันว่า 260 เสียงที่พูดมามีจริงหรือไม่ แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมี 260 เสียง แต่ถ้ามั่นใจในตัวเลขนี้จริง สิ่งแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จะทำ ก็คือ การเสนอ พ.ร.ก.เงินกู้ อย่างเร่งด่วน เพื่อเข้าที่ประชุมสภาฯ สมัยหน้า เพราะเงินที่กู้มาก่อนหน้านี้ 1.5 ล้านล้านบาท เหลืออยู่เพียง 8 หมื่นกว่าล้านบาทเท่านั้น และสถานการณ์โควิด 19 และปัญหาน้ำมันแพง เวลานี้จำเป็นที่จะต้องใช้เงินเพิ่ม หากไม่กู้จะทำอย่างไร
"ถ้าพระรามตู่มั่นใจท่านต้องกู้เงิน คุณต้องมาช่วยสิครับเรื่องค่าครองชีพ ตอนนี้ของแพงไปหมดทุกอย่าง น้ำมันก็ขึ้นเอา ๆ ไข่ไก่ก็ขึ้น ขณะเดียวกันวันนี้ประชาชนเดือดร้อนมากจากโควิด 19 คุณก็ไม่มีมาตรการอะไรช่วยเหลือเลย ปล่อยไปตามยถากรรม"
เมื่อถามย้ำว่าฟันธงได้เลยหรือไม่ว่าจะมียุบสภาฯ อย่างแน่นอน นายยุทธพงศ์ ตอบทันทีว่า "ฟันธงมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่มีกลุ่มกบฏ 21 คนของ ผู้กองฯ ธรรมนัส ผมก็ฟันธงไปแล้ว รัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ประชุมสภาฯ ก็ยังไปไม่รอดเลย"
ส่วนกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ ที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย นายยุทธพงศ์ บอกว่า เป็นเรื่องของรัฐบาลที่ต้องไปว่ากัน เพราะอำนาจการยุบสภา อยู่ที่นายกรัฐมมนตรี และหากรัฐบาลจะออกกติกาการเลือกตั้งเป็น พระราชกำหนด หรือ พ.ร.ก. แทน ก็ไม่กังวล เพราะรัฐธรรมนูญได้แก้กติกาเป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบแล้ว และกติกาจะออกมาอย่างไร พรรคเพื่อไทยก็พร้อมที่จะสู้ทุกกติกา อีกทั้งเวลานี้ทุกพรรคการเมืองก็เริ่มเดินสายเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กันแล้ว
ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน เตรียมจะยื่นเมื่อเปิดสมัยประชุม จะพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ เพียงคนเดียวหรือไม่ นายยุทธพงศ์ ระบุว่า ให้รอพรรคร่วมฝ่ายค้านหารือกันก่อน
