สัมผัสตัวตน “วิน เมธวิน” หนุ่มฮอตมาแรง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ทำความรู้จัก “วิน - เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร” นักแสดงหน้าใหม่ที่มาแรงจนฉุดไม่อยู่ นาทีนี้ใครๆก็หลงรัก

(ข่าวแนะนำ) 

อัปเดตข่าว สถานการณ์ โควิด-19 ทั่วโลก ล่าสุด 2 เม.ย. 63

อัปเดตข่าวโควิด-19 (COVID-19) ล่าสุด 2 เม.ย. 63

แจ้งเกิดแรงทะลุโซเชียลเลยทีเดียว สำหรับหนุ่มหน้าใส เจ้าของรอยยิ้มกินใจที่ใครๆก็เอ็นดู วิน - เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร นักแสดงหน้าใหม่ที่สร้างกระแสฟีเวอร์คว้าใจแฟนคลับได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ฮอตฉุดไม่อยู่แบบนี้ พีพีทีวี ต้องรีบคว้าตัวมาล้วงลึก เพื่อทำความรู้จักกันมากขึ้นซะแล้ว!!!!

ตอนนี้กระแสเราดังมาก รู้สึกยังไง

“ผมไม่รู้ว่าดังไหมอะ (ยิ้ม) ถ้าวัดจากยอดฟอลโลว์ในอินสตาแกรม ตอนแรกเลยคือศูนย์ (หัวเราะ) คือตอนแรกก่อนที่ทีเซอร์จะออกมีคนติดตามประมาณ 5 พัน พอทีเซอร์ออกมาก็ขึ้นไปประมาณหมื่นกว่า หลังจากนั้นก็ค่อยๆขึ้นมาทีละนิดๆ จนถึงประมาณสอง-สามหมื่น ก็ขึ้นมาเรื่อย จนอีพีหนึ่งออกก็เริ่มขึ้นเยอะ พออีพีสองก็ขึ้นมาอีก คือขึ้นมาเรื่อยๆเรียกว่าตกสัปดาห์ละประมาณแสนแปด”

แต่ล่าสุดใช้เวลาไม่ถึงเดือนยอดฟอลโลว์อินสตาแกรมทะลุล้านแล้วนะ

“(หัวเราะเขินๆ) เอาจริงๆ ผมตกใจมาก ตอนแรกอย่างที่ผมเขียนเลยว่ามีคนติดตามประมาณ 5 พัน พอได้เข้ามาเซ็นสัญญากับจีเอ็มเอ็มทีวี ก็คิดว่าถ้ามีคนมาติดตามเราหนึ่งแสนมันก็คือเยอะมากๆ แล้ว และไม่ได้หวังเลยว่าจะมีตัว M (M : million แปลว่า ล้าน) ในไอจีของเรา และมีเครื่องหมายการยอมรับว่าเราเป็นบุคคลที่ชื่อเสียงมาด้วย (หัวเราะ) มันเกินความคาดหมาย ก็เลยตกใจ ยังอึ้งอยู่กับสิ่งที่มันเกิดขึ้น มันเร็วมากครับ รู้สึกขอบคุณแฟนๆจริงๆที่ชื่นชอบในตัวผม จะตั้งใจทำงานออกมาให้ดี ให้ทุกคนมีความสุขมากที่สุดครับ”

ตอนนี้มีแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศเยอะมากขึ้นด้วย รู้สึกยังไงบ้าง

“รู้สึกขอบคุณมากๆ เพราะเอาจริงๆมีแฟนคลับในประเทศไทย สำหรับผมมันก็รู้สึกสุดยอดมากแล้ว (น้ำเสียงดีใจมากๆ) แล้วยิ่งเห็นซีรีส์ติดเทรนด์อันดับหนึ่งทวิตเตอร์โลก และติดอันดับหนึ่งในหลายๆประเทศ ไม่ใช่แค่ในประเทศไทย มันเกินที่เราคาดหวังไว้เยอะมาก รู้สึกขอบคุณแฟนๆมากๆ ที่ชื่นชอบในตัววิน ชื่นชอบในตัวพี่ไบร์ท (ไบร์ท วชิรวิชญ์) รวมถึงนักแสดงทุกคนในเรื่องด้วยครับ"

เหมือนว่าก่อนหน้านี้ “วิน” ไม่ได้คาดหวังเหรอ

“คาดหวังไหมเหรอ ตอนแรกก็คาดหวัง แต่ไม่ได้คิดว่ามันจะขนาดนี้ ตอนนั้นเราคิดว่าทำให้ดีที่สุดแล้วกันไม่ว่ามันจะเป็นยังไง ตอนที่ถ่ายอยู่ก็ยังคุยกับพี่ไบร์ทเลยว่ามันจะขนาดไหน เพราะว่าอย่างที่ผมบอกไปว่าก่อนหน้านี้ เราเองมีได้รับกระแสวิพากษ์วิจารณ์มาเยอะ ตอนนั้นเราไม่รู้หรอกว่าซีรีส์จะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ ตอนนั้นเราคุยกันแล้วบอกกันแค่ว่าเรามาตั้งใจทำให้ดีที่สุดดีกว่า (ยิ้ม)”

“ไบร์ท วชิรวิชญ์” กับชีวิตที่เปลี่ยนไป “ชื่อเสียง” ผลักดันให้ไม่หยุดพัฒนา

สำหรับงานแสดงเรื่องแรก อะไรที่ทำให้ “วิน” ต้องปรับตัวเยอะที่สุด

“ผมว่าเรื่องใหญ่ที่สุด คือการลดความอ้วน ผมเป็นคนชอบกินมากๆ เป็นสิ่งที่เดียวที่ผมจะไม่ยอม ไม่ว่าใครจะห้ามอะไร เรื่องกินคือไม่ได้นะ (หัวเราะ) จนมาเรื่องนี้ ก็ต้องตั้งสติ ถึงขั้นบอกกับตัวเองว่าเอาหน่อยๆ ถือว่าเป็นความท้าทายตัวเอง ว่าจะทำได้เปล่า เพราะตลอดชีวิตกินแบบไม่ยั้งอะไรเลย (หัวเราะ) ตอนที่ถูกบอกว่าเราอ้วน ตอนนั้นคิดในใจว่า เดี๋ยวออกกำลังกายเพิ่มแล้วกัน คิดแค่นั้นเลย ผมไม่ยอมแน่นอนเรื่องการกิน จะต้องกินเหมือนเดิม จนแบบมันไม่ทัน (หัวเราะ) คือซีรีส์จะถ่ายแล้ว ยังไม่มีความเปลี่ยนแปลงเลย พอออกกล้องคือมันยังใหญ่อยู่ ใหญ่กว่าพี่ไบร์ทอีก เลยตัดสินใจลดการกิน เหลือกินวันละ 2 มื้อ ภายใน 8 ชั่วโมง ทำตามสูตร กิน 8 ลด 16 บางวันก็กิน 6 ลด 18 กินแต่อาหารคลีน แล้วกินน้อยมาก ตอนนั้นน้ำหนักก็ลง”

ชีวิตตอนนั้นเป็นยังไง เพราะจากคนที่มีความสุขกับการกินมากๆ

“มันก็พยายามหาความสุขด้านอื่น (หัวเราะ) ก็พยายามหาอย่างอื่นทำ อย่างเวลาต้องไปฟิตเนส ก็ไปกับเพื่อน พยายามดึงเพื่อนเข้ามา ให้มันอยู่ในรูทีนเดียวกับเรา กินเหมือนเรา พยายามชวนให้มาลดความอ้วนกันเถอะ (หัวเราะ) พอมีเพื่อนมันก็ไปได้ หาพวกมาด้วย เพราะเพื่อนเองก็ชอบกินเหมือนกัน ก็ชวนบอกเพื่อนว่าลองดูสักครั้งว่าจะทำได้ไหม ก็ชวนกันออกกำลังกาย น้ำหนักก็ลงไป 10 กิโลกรัม ภายในเวลาเดือนกว่า”

ปรับตัวมากไหมกับการมาอยู่ตรงนี้

“มันก็ต้องปล่อยวางอะไรหลายๆอย่างมากขึ้น เมื่อก่อนเราอาจจะไม่ได้อยู่ในจุดที่ใครจะมาสนใจ เรา ทำอะไรถ้าไม่ได้ไปเดือดร้อนใคร ก็ไม่มีผลกระทบกับใคร แต่พอมาตอนนี้ เรามาอยู่ตรงกลาง มีคนรู้จัก มีคนเห็นมากขึ้น มีคนมองมาที่เราในมุมที่มีความคิดเห็นที่ต่างกันออกไป เราจะไปควบคุมให้ทุกคนมองเราและคิดเหมือนกันทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เราก็ต้องยอมรับกับการมองมาในความคิดเห็นของแต่ละคน จะให้ทุกคนที่มองมาแล้วชอบเราทุกคนมันเป็นไปไม่ได้ แค่ว่าเราทำตัวเราให้เป็นตัวเรา แบบที่มีความรับผิดชอบต่อการมองของแต่ละคนมากกว่า”

ตั้งรับยังไงเพราะการมาอยู่ตรงนี้ อาจจะเจอเรื่องราวทั้งดีและไม่ดี

“พยายามไม่คิดเลย (หัวเราะ) คือสมมติเราไปเจออะไรที่มันอาจจะหมายถึงเราในทางที่ไม่ดี เราก็ต้องดูก่อนว่าสิ่งนั้นมันจริงไหม เราเห็นด้วยไหม ซึ่งถ้ามันเป็นการติติงตัวเราที่มันจริง แล้วเราสามารถปรับได้ เราก็จะทำเพื่อให้ทุกคนมีความสุขมากขึ้น แต่อันไหนที่มันไม่จริง หรือเป็นสิ่งที่เราปรับไม่ได้ และมันเหนือการควบคุมของเรา เราก็ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องปล่อยไป”

รับมือกับการถูกจับตามองชีวิตส่วนตัวยังไงบ้าง

“ผมไม่ได้สร้าง ไม่ได้มโนชีวิตตัวเองขึ้นมา ผมก็เป็นของผม เป็นธรรมชาติแบบนี้อยู่ตลอด ผมไม่ได้โกหกอะไรขึ้นมา วันใดวันหนึ่งหากเราโกหกชีวิตตัวเอง ยังไงมันก็รู้อยู่ดี ผมเองก็ใช้ชีวิตปกติธรรมชาติ ใครจะมองมายังไง มันเป็นสิทธิของแต่ละคนอยู่แล้ว”

มองก้าวต่อไปในการทำงานตรงนี้ไว้ยังไง

“ก้าวต่อไปผมจะพัฒนาตัวเอง และทำมันออกมาให้ดีที่สุด เท่าที่เราทำได้ และเราจะเต็มที่กับงานทุกงาน เพื่อที่จะมีผลงานดีๆออกมา ถือเป็นการขอบคุณแฟนๆด้วยครับ ที่เขาให้การสนับสนุนเรา การที่เขามาชื่นชอบเรา ก็เขาหวังที่จะให้เราเติบโตในตรงนี้ และมีผลงานดีๆออกมาให้เขาได้ชื่นชม เรามีหน้าที่มอบตรงนั้นให้กับเขา ถ้าถามว่ากดดันกับงานในอนาคตไหม จริงๆผมกดดันกับทุกงานอยู่แล้วนะ ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นยังไงก็ตาม ผมก็จะเต็มที่กับงานให้มากที่สุดอยู่แล้วครับ”

ขอทำความรู้จักตัวตนของ “วิน” หน่อย 

“ผมเป็นคนร่าเริง เป็นคนแฮปปี้ สดใส แต่ว่าเป็นคนคิดเยอะ คิดมาก ข้างนอกไม่ได้แสดงออก รู้สึกอะไรบางทีก็เก็บไว้ ร่าเริงไว้ก่อน เวลาคิดมากหรือเจอเรื่องแย่ๆก็จะคุยกับเพื่อน คุยกับที่บ้าน คุยกับพ่อแม่ครับ”

เราเป็นคนชิคไหม เพราะคนอาจจะจำคาแรคเตอร์เราในซีรีส์ดูจะชิคๆ

“ความชิคของผมคงไม่เท่าที่ตัวละครในซีรีส์คิดว่าตัวเองชิคนะ (หัวเราะ) ตัวผมเองก็ปกติเลย ไม่ได้คิดว่าตัวเองหล่อด้วย ถ้าเต็มสิบผมน่าจะมีความชิคประมาณ 3 – 4 เองแหละ (หัวเราะ)”

ถ้าให้นิยามความเป็น “วิน” 3 ข้อ มีอะไรบ้าง

“ข้อแรกคงเป็น รอยยิ้ม ด้วยความที่ผมเป็นคนอารมณ์ดี ผมขำง่ายมาก อะไรนิดหน่อยผมก็ขำแล้ว และผมรูัสึกว่าถ้าตัวเองมีความสุข ก็จะทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย ข้อสองคือ การไม่หยุดฝัน ผมคือไม่ได้คาดหวัง ไม่รู้ว่าตอนนั้นซีรีส์จะออกมาเป็นยังไง ผมแค่รู้ว่าจะทำให้ดีที่สุด ข้อสุดท้าย ความใส่ใจ ผมรู้สึกว่าเวลาผมทำอะไร ผมจะคิดถึงคนอื่นด้วย เวลาอยู่กับคนนั้น คนนี้ ผมจะแคร์ความรู้สึกคนๆนั้น ว่าเขารู้สึกยังไงถ้าเราทำแบบนี้ ผมจะพยายามทำอะไรก็ได้ที่ไม่เดือดร้อนคนอื่น และไม่เป็นทุกข์กับตัวเอง และมีความสุขทั้งกับตัวเราและคนอื่น”

มีคนบอกว่าเสน่ห์ของ “วิน” คือรอยยิ้ม แล้วตัวเราเองมองว่าเสน่ห์ของเราคืออะไร

“คงเป็นรอยยิ้มเหมือนกันครับ เพราะเวลาผมเห็นตัวเองยิ้มแล้วรู้สึกสดใส และอยากจะยิ้มแล้วทำให้คนที่เห็นมีความสุขครับ (ยิ้ม)”

จากลุคของ “วิน” คนจะมองว่าเป็นลูกคุณหนู แบบ..“คุณหนูวิน”

“(หัวเราะ) จริงๆ ผมใช้ชีวิตปกติ เหมือนคนธรรมดาทั่วไปเลย กินได้ทุกอย่าง อยู่ตรงไหน ที่ไหน ก็ได้ อาจจะเพราะด้วยข้าวของที่ผมมีหรือเปล่า ทำให้หลายคนมองว่าผมเป็นลูกคุณหนู แต่ความจริงด้วยนิสัยส่วนตัวผมอยู่ได้สบายที่ไหนก็ได้ ยิ่งถ้าคนมาเห็นผมในการกินด้วยแล้วนะ จะไม่มีใครบอกเลยว่าผมเป็นลูกคุณหนู ผมกินได้หมด ของข้างทาง ของอะไรยังไง ผมกินได้หมด ให้ผมนั่งกินกับพื้นก็ได้ ผมก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนูหรือสูงส่งไปกว่าใครครับ”

สายกินอย่าง “วิน” มีเมนูไหนไหมที่สั่งตลอด 

“เมนูโปรดของผมคือ กะเพราะไข่ดาว (หัวเราะ) เหมือนเป็นอาหารเมนูประจำบ้าน ตั้งแต่เด็กแล้วจะมีคนทำผัดกะเพราให้กินบ่อยมาก ทำให้รู้สึกว่าออกไปไหนก็ตาม ไปร้านไหนก็ตาม ก็ต้องกินเมนูผัดกะเพราสั่งตลอด”

ถามถึงมุมมองความรักของ “วิน” หน่อย เรามองความรักเป็นแบบไหน

“มุมมองความรักของผมไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นแบบไหน กับคนที่เป็นแบบไหน ผมแค่รู้สึกว่าเป็นใครก็ได้ที่อยู่กับเราแล้วมีความสุขด้วยกัน คิดอะไรเหมือนๆกันก็เท่านั้น สำหรับผมการที่จะเป็นคู่กัน หรือการที่ผมจะมีความรักกับใครสักคน ผมอยากที่จะรู้สึกมีความสุขที่มีเขา และสุขมากขึ้นๆ ในทุกๆวันที่มีกันและกัน หรือถ้าจะมีความเศร้าก็เศร้าไปด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็แชร์กัน ดูแลเอาใจใส่กัน อยู่คู่กันแล้วมันทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นไปเรื่อยๆ (ยิ้ม)”

สถานะตอนนี้เราโสดไหม

“ตอนนี้ผมยังไม่มีแฟนครับ (ยิ้ม)”

 

 

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ