เดินหน้าทำบุญอย่างต่อเนื่อง สำหรับ หม่ำ จ๊กมก ที่ชวนพี่น้องตลก อาทิ ถั่วแระ เชิญยิ้ม ร่วมแจกถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด ให้แก่ประชาชน ในโครงการน้ำพระทัยพระราชทาน สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งนอกจากจะมาบรรเทาทุกข์แล้ว ตลกคนดังยังเปิดใจถึงผลกระทบต่ออุตสาหกรรมหนังไทย ที่เดือดร้อนไม่น้อย หลังต้องพักการถ่ายทำ
“หม่ำ – ถั่วแระ” นำทีมมอบถุงยังชีพ แก่ชาวชุมชนแออัด
การออกมาช่วยเหลือ คนมักจะมองเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก
“เราก็ต้องป้องกันตัวเอง ใส่หน้ากาอนามัย ผมว่ามันก็เริ่มซาๆแล้วแหละ แต่ก็อย่าประมาท ออกจากบ้านก็ใส่แมสก์และป้องกันตัวเอง อย่าไปในที่คนเยอะๆ คนที่อยากออกมาช่วยเหลือคนอื่น แต่แอบกลัวดราม่า ก็ทำแบบผมได้ ป้องกันตัวเองให้ดี บางทีก็น่าเห็นใจนะ คนเขาหิว เขาไม่มี คนสายป่านยาวๆก็ยังพอมีทุน คนหาเช้ากินค่ำ ตอนนี้หาเช้าก็ยังไมได้เลย กินค่ำก็กินไม่ได้ เพราะไม่มีที่จะกิน บางทีก็หาได้วันต่อวัน ยิ่งคนใช้แรงงานคนต้องใช้ทุกวันแล้วไม่ได้ทำ อย่าว่าแต่ 2 เดือนเลย 5 วันก็มีผล ก็สะเทือน”
อุตสาหกรรมภาพยนตร์มีผลกระทบไหม
“มันไปด้วยกันทั้งหมดแหละครับ ห้างฯ โรงหนัง มันก็สุ่มเสี่ยง คนไปนั่งดูเป็นร้อยคน ถ้ามันไม่ศูนย์จริงๆ คนก็ไม่อยากไปดู น่าเห็นใจคนบันเทิงด้วย ยังไงก็ต้องอดทน ต้องผ่านกันไปให้ได้ทั้งหมด”
ภาพยนตร์ที่ถ่ายไว้ ตอนนี้เบรกยาวเลยใช่ไหม
“ก็หยุดเหมือนกัน หนังที่ถ่ายค้างอยู่ก็หยุดหมด นโยบายให้กองถ่ายใช้คน 5 คน มันเป็นไม่ได้หรอก ต้องใช้ทีมงานเยอะ ก็ต้องรอให้ปลอดภัยที่สุดก่อน และไม่ใช่ว่าเปิดกล้องได้แล้วจะถ่ายได้นะ เจ้าของโลเคชั่นเขาก็กลัวเหมือนกัน ก็ต้องรอให้เป็นยอดศูนย์แหละ ถามว่าเรื่องภาพยนตร์เสียหายเยอะไหม มันเสียหายทั้งหมดนะ ทั้งเจ้าของโรงหนัง เจ้าของหนัง ไปด้วยกันทั้งหมดแหละ เราก็ต้องฝ่าไปให้ได้ ก็ต้องอดทน ช่วงนี้ก็เอาเงินเก่ามากิน บ้านผมก็สิบกว่าคน”
งานต่างๆมีกระทบไหม
“ดีว่าของผมมีสต็อคถ่ายรายการไว้ ตั้งแต่ก่อนที่โควิดจะมา กลางเดือนนี้ถ้าไม่ได้อัดก็ต้องรีรันแล้ว”
หลังจากนี้วงการภาพยนตร์ไทยจะรับมือยังไง
“ก็ต้องแก้ไขปรับปรุงในตัวสตอรี่ของเรื่อง คนเสียเงินมาดูหนังในราคาเท่ากัน แต่คุณภาพหนังไม่เท่ากัน ก็เห็นใจเขานะ คนที่เขาบริโภคก็ต้องมอง 50/50 กันด้วย อย่าไปบอกว่าเขาไม่อยากดูหนังไทย ก็ทำให้เท่าๆกัน ถึงแม้ว่าทุนเราจะไม่เท่ากันกับเขา เราก็ทำให้น่าดู มีสตอรี่”
“เมย์ พิชญ์นาฏ” ควง “ไฮโซบิ๊ก” แจกถุงยังชีพ ให้ปชช.
ขอบคุณภาพจาก IG motjokmok