เริ่มต้นการแข่งขันกับการเฟ้นหาเงาเสียง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ด้วยสองผู้เข้าแข่งขันรุ่นใหญ่วัย 65 ปีเท่ากัน A ชำนาญ ปิ่นแก้ว พนักงานรักษาความปลอดภัยศูนย์เด็กเล็ก(รปภ.) และ B วัต-สวัสดิ์ สนาขินิต ช่างก่อสร้างว่างงาน โดยต้องมาประชันกันในเพลง “หนุ่มนารอนาง” ผลปรากฏว่า ฝั่ง B เป็นฝ่ายชนะไป เพราะจังหวะและลูกเอื้อนเอ่ยที่ดีกว่า
“ไวพจน์-ทศพล”เจ้าพ่อเพลงแหล่ นักทำขวัญนาค สุดอมตะ!! ตัดสินเงาเสียงใน “กิ๊กดู๋ฯ”
มาถึงรอบชิงแชมป์เงาเสียง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ระหว่าง A เหรียญ ทองดี อายุ 60 ปี อาชีพรับราชการ และ B วัต-สวัสดิ์ ในเพลง “บวชพระดีกว่า” งานนี้ วัต-สวัสดิ์ ชนะไปขาดลอย คว้าแชมป์เงาเสียงไปสำเร็จ
ต่อด้วยการแข่งขันชิงแชมป์เงาเสียง ทศพล หิมพานต์ ระหว่าง A ต้นตาล-ยุทธการณ์ ปานเจริญ ลูกคู่รับทำขวัญนาค-นักร้องลูกทุ่งอิสระ และ B ท็อป-ชัยพร นิ่มนวลรัตน์ พ่อค้าขายจิวเวลรี่ จังหวัดกาญจนบุรี-นักร้องอิสระ ในเพลงโจทย์ “แหล่สี่กษัตริย์เดินดง” ในที่สุด A ต้นตาล หนุ่มเสียงหวานที่เก็บรายละเอียดการร้องได้อย่างละเอียด ชนะคว้าแชมป์เงาเสียงไปได้อย่างหมดจดไม่มีข้อกังขา
ปิดท้ายกันที่โชว์พิเศษศิลปินต้นฉบับ พบ เงาเสียง แบบพิเศษสุดๆ เมื่อสองคู่ศิลปินต่างวัย ไวพจน์-วัต และ ทศพล-ต้นตาล มาร่วมแหล่และร้องกันในเพลง “นาคสั่งสีกา” เพลงแหล่งานบวชที่ไม่มีใครไม่รู้จัก
“แสงสุรีย์ รุ่งโรจน์” ครวญเพลงดัง "รักสาวเสื้อลาย" สนั่นจอ นั่งแท่นศิลปินต้นฉบับใน “กิ๊กดู๋ฯ”