“เอ ศุภชัย” ปล่อยโฮ สูญเสีย “แตงโม นิดา” ลั่นเร็วเกินไป ยังทำใจไม่ได้

มิตรภาพพี่น้อง “แตงโม นิดา” ซึ้งน้ำตาไหล “เอ ศุภชัย” ยกหนี้ 4 แสนให้

เดินทางมาร่วมพิธีไว้อาลัยดาราสาว แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ภัทรธิดา ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ สำหรับ เอ - ศุภชัย ศรีวิจิตร นักปั้นมือทองและผู้จัดละคร โดยได้เปิดใจทั้งน้ำตาว่า

บรรยากาศพิธีไว้อาลัย “แตงโม นิดา” คนบันเทิงและแฟนๆร่วมงาน

“วันนี้อยากส่งน้องไปอยู่บนสรวงสวรรค์ พี่เอคิดว่าทุกคนคงเครียดกับหัวใจดวงนี้มาเยอะแล้ว วันนี้อยากเห็นบรรยากาศสวยๆ คนถึงความดี ความรักที่เรามีให้กับน้อง คิดถึงเรื่องราวดีๆ วันที่พี่เอไปกินข้าวกับน้องที่หน้าราม 

เมื่อก่อนพี่เอสนิทกับคนดูแลน้องโม พี่เออยากนึกถึงวันเก่าๆที่มีน้อง อยากจำภาพนี้ไว้ อยากเห็นแต่สิ่งที่สวยงาม (เสียงสั่น)

พี่เองงตัวเองเหมือนกันทำไมเสียใจกับผู้หญิงคนนี้แยอะขนาดนี้ เขาไม่ใช่ญาติเรา เราสงสารชีวิตน้อง เรารู้สึกว่าเหมือนน้องกำลังจะดี แต่ทำไมถึงไม่สำเร็จ (ปล่อยโฮ)ทำไมมันเป็นอย่างงี้ พี่เอรับไม่ได้ ร้องไห้ทุกวัน แต่ก็ต้องสู้ต่อ ต้องเข็มแข็ง

อันนี้พูดตรงๆ วันที่ยังไม่เจอน้องโม เรารู้สึกว่าเราต้องทำยังไงต่อในฐานะผู้ใหญ่ เราจะเตรียมงานหรือรอกันต่อเพื่อความหวัง แต่เราก็ต้องทำสองอย่างควบคู่กันไป คือเตรียมงานและเตรียมโรงพยาบาล ถ้าน้องขึ้นมา แต่สุดท้ายเราก็ต้องได้รับคำตอบเดียวกันทุกคน

ถามว่าอยากบอกอะไร พี่เอบอกน้องไปหมดแล้ววันที่น้องไปหาพี่เอ อย่างที่ในคลิปพี่เอบอกว่าโมมีอะไรบอกนะ คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีอะไรบอก ละครเดี๋ยวจัดให้ อยากได้อะไรบอก เหมือนกับผู้ใหญ่คนนึงอยากมอบโอกาส คือโอกาสเขามีอยู่แล้วทุกคนก็รู้ แต่เราเป็นเหมือนพี่ที่เดินมากับน้องแต่แรกและอยากเดินไปเรื่อยๆ

ถามว่าอยากทำอะไรเพื่อน้อง จริงๆพี่เอก็ทำทุกอย่างเพื่อนน้องอยู่แล้ว น้องอยู่เราก็โทรคุย น้องโมมีปัญหาอะไรที่ใหญ่จริงๆก็จะโทรมา แต่ถ้าปัญหาเล็กๆเขาจะเกรงใจจะโทรหาพี่คนอื่นแทน เราจะเป็นเหมือนพี่ให้คำปรึกษา ส่วนมากจะเรื่องการทำงาน

เรื่องการจัดงานวันนี้พี่เออยากมองน้องโมเป็นเจ้าหญิงนิทรา เหมือนนอนอยู่ในสวนดอกไม้ อยากให้เป็นแบบนั้น อยากบอกทุกคนว่าอย่าคิดว่าพี่เอเป็นเจ้าภาพนะคะ ให้ทุกคนคิดว่าทุกคนคือเจ้าภาพร่วมกันกับพี่เอ และพี่เอจะไม่ขอรับเงินทั้งสิ้น ถ้าใครอยากช่วยก็หิ้วของ หิ้มขนมมาให้คนที่นี่ดีกว่า

พี่เอกับพี่อั้มเต็มที่ ใส่ใจทุกรายละเอียด เพื่อจะได้ส่งน้องได้ดีที่สุด ไม่ได้ดูเรื่องงบ น้องโมชอบดอกไม้สีขาว ก็สั่งดอกไม้สีขาวมาเยอะๆให้น้องได้เห็น พี่คิดว่าว่าน้องอยู่ พี่เอก็ไม่เคยพูดคำอาลัยให้ใครเลย วันนี้ต้องพูด กลัวพูดไม่จบพวกเราช่วยพี่เอด้วยนะ

อยากบอกโมว่าพี่ฝันไปใช่ไหมลูก มันไม่ใช่ความจริงใช่ไหม อยากให้วันนี้พวกเราฝันกันอยู่ทุกคน ไม่อยากให้มีวันนี้เลย จริงๆเคยบอกโมว่าพี่เอฝากชีวิตไว้กับโม วันนึงถ้าพี่เอตายให้เขามาเผาศพด้วยนะ แต่วันนี้มันสลับกัน เราก็รู้สึก มันเร็วไป (ร้องไห้) น่าจะมีเวลาให้พี่เอได้ทำใจสักหน่อย จะดีกว่านี้ พี่เอว่าทุกคนก็คงรู้สึกเหมือนกัน

ส่วนเรื่องละคร น้องโมไม่เคยบอกว่าจะเล่นบทไหน แต่เรารู้สึกว่าน้องเล่นได้ทุกบทบาท เพราะเขาแอ็คติ้งดี เลยบอกเขาว่าทำสักโปรเจ็กต์ด้วยกัน แต่ยังไม่ได้พูดคุยกันว่าจะทำอะไร

น้องโมเคยพูดแค่ว่าหนูอยากทำงาน หนูไม่อยากขอยืมเงินคนอื่น อยากทำงานแค่ได้เงิน งานอะไรก็ได้เขาไม่เคยเลือกขอแค่เป็นงานที่ถูกต้องและสุจริต แม้ไปขายเสื้อผ้ามือสอง ยังมาบอกพี่เอว่าพี่เอถ่ายละครต้องใช้เสื้อผ้าเยอะเอาของหนูไหม หนูไลฟ์ขายเสื้อผ้านะ

และน้องโมเคยบอกว่าวันึงถ้ามีโอกาสดีจริงๆ หนูจะจูงเบิร์ดมาสวัสดีพี่เอนะ (ร้องไห้) บอกพี่เอว่ามีอะไรให้เบิร์ดทำนะบอกได้ พี่ก็บอกว่ายินดีเลย ถ้ามีโอกาสเราคงได้เจอกัน

ส่วนเรื่องที่มีกระแสว่าจะชวนเบิร์ดมาทำงานนั้น คือยังไม่ได้คุยกับเบิร์ด แต่พี่เคยคุยกับน้องโม และน้องเคยบอกพี่เอว่าฝากเบิร์ดด้วย แต่ไม่ได้บอกว่าทำเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง พี่เอก็คิดในใจว่าถ้ามีอะไรให้น้องเบิร์ดทำได้พี่เอก็จะช่วย แต่โทรคุยพี่ที่สนิทน้องเบิร์ด เขาบอกเบิร์ดไม่เอาอะไร เขาบอกถ้าเสร็จงานเขาก็ไปแล้ว เราก็ร้องไห้ ยิ่งเอ็นดูเขา (ร้องไห้)”