“ต้น ตระการ” เผยสภาพจิตใจ “กระติก” วอนสังคมรอฟังคำตัดสิน ถ้าผิดจริงพาส่งตำรวจเอง
“ต้น - ตระการ พันธุมเลิศรุจี” ร่วมพิธีไว้อาลัย “แตงโม นิดา” เผยสภาพจิตใจ “กระติก” วอนสังคมอย่างพึ่งลงโทษ ขอให้รอคำตัดสิน หากผิดจริงจะพาส่งตำรวจเอง ยันไม่ได้เข้าข้างใคร
จาก “กระติก” ถึง “แตงโม” 20 ปี ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ รักมาก หลับให้สบาย
นักแสดงมากฝีมือ ต้น - ตระการ พันธุมเลิศรุจี เดินทางมาร่วมพิธีไว้อาลัย แตงโม - นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ภัทรธิดา ที่คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ซึ่งจัดขึ้นเป็นวันที่สอง
“กระติก” ร่ำไห้! นำช่อดอกไม้ร่วมพิธีไว้อาลัย “แตงโม นิดา”
โดย “ต้น” เป็นสมาชิกโบสถ์เดียวกับ "แตงโม" และ กระติก - อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ เพื่อนและอดีตผู้จัดการส่วนตัวของดาราสาวผู้ล่วงลับ ซึ่งเจ้าตัวเผยกับสื่อมวลชนว่า
“ตัวผมเป็นสตาฟคริสจักรแห่งความสุขด้วย หน้าที่ก็คือให้การดูแลจัดพิธีไว้อาลัยให้กับสมาชิก งานนี้ผมมีส่วนค่อนข้างน้อย เพราะมีลูกต้องดูแล ก็พยายามให้กำลังใจทุกฝ่ายที่เตรียมงานทั้งหมด”
ความสนิทสนม “แตงโม”?
“ผมกับแตงโมไม่ได้รู้จักกันในฐานะเพื่อนนักแสดง โมกับกระติกไปโบสถ์เดียวกัน เราเป็นสมาชิกของโบสถ์เดียวกัน ผมในฐานะรุ่นพี่มีหน้าที่ดูแล คอยให้ความช่วยเหลือเขา โมกับกระติกสำหรับผม ผมไม่เคยมองนอกเป็นนักแสดงหรือดาราเลย ถึงแม้ว่าน้องเขาจะสวยจริงๆ โมเป็นสมาชิกที่น่ารักมาก ให้ความช่วยเหลือ สนใจ ยินดีให้การประกาศเรื่องงานของพระเจ้า โมเป็นตัวอย่างของคนที่ตั้งใจและทุ่มเทเรื่องของคริสตศาสนามากๆ”
ได้คุยกับ “กระติก” มากแค่ไหนเพราะสภาพจิตใจค่อนข้างแย่?
“อยากให้พวกเราสมมติตัวเองเป็นกระติก ทุกคนมีหัวใจเหมือนกัน กระติกก็มีหัวใจ เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึงที่น่าสงสารมาก เหตุการณ์ทั้งหมด กระติกก็ไม่ต่างจากพวกเราที่จะต้องสูญเสียเพื่อนรักคนนึงไปอย่างในการ์ดที่กระติกเขียน ทุกโมเมนต์ชีวิตของกระติกมีแตงโมและในทุกโมเมนต์ของแตงโมก็มีกระติก ผมว่าเขาสองคนเป็นเพื่อนที่รักกันมาก ทุ่มเทให้กันมากอย่างที่เราหลายๆคนไม่คาดคิดมาก่อน เพราะฉะนั้นผมจึงยังไม่เชื่อว่าทั้งหมดมันจะมีอะไรที่ซ้อนเร้น แอบแฝงมากไปกว่าความเป็นเพื่อน”
วันที่ทราบ “กระติก” ได้โทรมาเล่าให้ฟังว่ายังไงบ้าง?
“ทราบข่าวตอนเช้า เห็นข่าวก็โทร.ไปสอบถามน้อง ก็ยังไม่ได้คำตอบ จนสายๆถึงค่อยๆไล่เรียงว่าเหตุการณ์มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่ใช่จากปากคำของกระติก เมื่อเช้าผมก็ได้คุยกับกระติก ผมพยายามจะปลอบและให้กำลังใจน้อง ตราบใดที่กระบวนการพิจารณาคดียังไม่สิ้นสุด เรายังเป็นแค่ผู้ต้องสงสัยหรือพยาน ฉะนั้นสิ่งที่กระติกทำไปทั้งหมดมันคือคำให้การ จริงว่าไปตามจริง เท็จว่าไปตามเท็จ ถ้าไม่ใช่หรือนอกเหนือจากนั้นแล้ว เป็นสิ่งที่คุณปรุงแต่งขึ้น ในภาษาตามพระคัมภีร์คือใช่ก็ว่าใช่ ไม่ก็ว่าไม่ ที่มากไปกว่านั้นเป็นความชั่วทั้งสิ้น
ย้ำน้องอยู่เสมอว่าเวลาให้การณ์หรือพูดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือให้ปากคำใดๆทั้งสิ้น อะไรคือความจริงให้พูดตามความจริง อะไรที่เราไม่เห็นอย่าไปพูด อะไรคือความเห็น ที่ได้ยินจากคนอื่น ระบุไปเลยว่าได้ยินจากคนนั้นคนนี้เพื่อให้สังคมไม่คลางแคลงใจว่าทำไมกระติกต้องหมกเม็ด ทำไมกระติกไม่พูดความจริงทั้งหมด แยกแยะกันให้ออกนะ ผมอาจจะถูกต่อว่าจากการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้
ซึ่งวันนี้ผมบอกเลยว่าผมไม่ได้เข้าข้างใคร ใดๆทั้งสิ้น ผมรักโม ผมรักกระติกในฐานะน้องทั้งสองคนไม่ต่างกัน วันนี้เราก็สูญเสียเหมือนกัน ผมเชื่อว่าวันนี้พวกเราทั้งหมดรอคอยความจริงกัน ซึ่งความจริงนั้นไม่มีใครรู้ องค์พระผู้เป็นเจ้ารู้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิสูจน์ตามนั้นให้เราเห็น”
ทุกวันนี้ “กระติก” ยังกลัวอะไรไหม?
“กลัวนักข่าว(หัวเราะ) กระติกกับการให้การณ์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาไม่กังวลอะไรเลย ผมกล้ายืนยันเลยว่าขณะที่น้องให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเหตุการณ์เป็นยังไง กระติกไม่มีความหวั่นไหวใดๆทั้งสิ้นในการตอบคำถาม ในขณะที่เขาให้ปากคำ ผมอยู่ในห้องสอบสวน ผมมองเข้าไปเราเห็นเลยว่าเขาตอบสิ่งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำจากทุกฝ่ายทุกแผนก เราเห็นเลยว่าน้องมีความมั่นใจในการตอบคำถาม นั่นคือสิ่งที่ผมสังเกตเห็น แต่เรื่องราวทั้งหมดจะถูกใจพวกเรารึเปล่าผมไม่รู้ อันนี้ผมตอบไม่ได้
ผมเหนื่อยใจนะ รู้สึกท้อใจ ตอนนี้โลกโซเชียล ตีกินคนนึงอยู่ หนึ่งคนที่ไปคอมเมนต์ ด่า หรือดูจากตรงนี้แล้วด่าผม คุณรู้จักเหรอ คุณเห็นอะไรเหรอ คุณพูดจากสิ่งที่คุณรู้ คอมเมนต์จากสิ่งที่คุณสนุก เดี๋ยวผมก็โดนด่าอีก ผมพูดเลย นี่คือความท้อใจที่สุดในสังคมตอนนี้ ไม่แพ้กับเหตุการณ์ที่เราสูญเสียแตงโมนะ เหนื่อยนะ นี่คือสิ่งที่สังคมทำไมไม่เห็นอะไรก่อน คิดเอาเอง มโน ต่อว่าคนอื่นสนุกปากไปวันๆ แล้วมันได้อะไร ทำไมเราไม่แสดงความรักต่อกัน สังคมสร้างสรรค์มันมี วันนี้ถ้าตำรวจพิสูจน์ความจริงนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้ากระติกผิดจริงๆ ผมเชื่อว่าสังคมจะด่าว่าเท่าไหร่เชิญเลย แล้วผมจะเป็นคนพากระติกไปส่งเอง แต่ถ้าวันนี้กระติกยังไม่ถูกตัดสินหรือพิจารณาอะไรใดๆทั้งสิ้น อย่าเพิ่งลงโทษเลยครับ เราเสียแตงโมไปคนนึงแล้วนะ”
กลัว “กระติก” น้อยใจคิดสั้น?
“ความน้อยเนื้อต่ำใจก็เกิดจากพวกเรา ที่กระแสสังคมพยายามสร้างปฎิกิริยาให้เกิดขึ้น ผู้หญิงคนนึงนะครับ น้องๆนักข่าวที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน ลองคิดกลับกันมายืนอยู่ตรงนี้และถูกคนอื่นด่าเป็นร้อยเป็นพันในวันเดียวกันโดยที่เขาอาจจะไม่ได้รู้สึกอะไร การไม่ร้องไห้ต่อหน้าคนอื่นผิดตรงไหน ผมไม่เข้าใจ ถ้าคนไม่ผิดเขาทำไมจะต้องพูดขอโทษ พวกเราต้องย้อนถามตัวเองเหมือนกัน ผมไม่ได้พูดแทนกระติกนะครับ ผมอยากจะพูดแทนแตงโม เพราะนี่คือเหตุการณ์ที่แตงโมเผชิญมาก่อนหน้านี้แล้ว ขณะที่โมมีชีวิต โมถูกต่อว่า ถากถาง เหยียดยามสารพัด โมต้องทนกับสิ่งเหล่านั้น และแม้กระทั่งวันนี้ โมจากไปแล้ว เพื่อนสนิทที่เขารักกำลังถูกกระทำ คุณลองคิดดูสิ โมจะรู้สึกยังไง ถ้าเขารับรู้ได้”
เห็นความสัมพันธ์ของเพื่อนคู่นี้ยังไงบ้าง?
“คุณกล้ายกลูกคุณ ให้กับคนที่คุณสนิทไหม เขากล้าที่จะยกลูกที่เขารักที่สุด เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาให้ผู้หญิงที่เป็นเพื่อนดูแล ถึงแม้จะไม่ได้ถูกต้องตามนิตินัยก็ตาม แต่มันบ่งบอกถึงความรักที่ทั้งสองฝ่ายมีต่อกัน เป็นความรักที่มันผูกพันกันมากกว่าความเป็นเพื่อน โม ไม่มีบอกหรอกว่าตัวเองอยากเป็นแม่คน ผู้หญิงไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยมีสามีมาก่อน จะไปรับเด็กคนนึงมาเป็นลูกตัวเองทำไม แต่ความรักที่เขามีต่อกระติก ที่มีต่ออีส ขออภัยที่ต้องเอ่ยชื่อน้องเพราะว่า ตราบาปอันนี้มันอยู่บนโลกโซเชียล มันอยู่บนสื่อ
พวกเราลองคิดกันดูนะครับว่า น้องเห็นภาพเหล่านี้ เห็นข่าวเหล่านี้ โดยที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ผมตำหนินะ สื่อจะโทษผมก็ไม่ว่า นำเสนอข่าวเด็ก โดยที่ไม่ปิดบัง ไม่เบลอภาพ เอ่ยชื่อตรงๆ ลองนึกว่าผลกระทบมันจะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กในวันที่เขาเติบโตขึ้น เห็นใจ กันหน่อย ขอบคุณทุกคน ผมไม่ได้พูดแทนกระติกนะ ผมพูดแทนแตงโม อยากให้รอเวลาความจริงปรากฎ อย่าเพิ่งไปขัดกระบวนการของเจ้าหน้าที่เลย”
“กระติก” มาร่วมงานไหม?
“มาครับ เดี๋ยวมา ผมพูดแทนน้องได้อย่างนึงคือ เขามีจุดอ่านในการให้สัมภาษณ์ บุคลิกของเขาเป้นมาตั้งแต่เกิด คุณแม่ของเขาบอกมา เขาเป็นคนพูดตรงพูดห้วน ถ้าใครเคยดิวงานกับน้อง เป็นคนพูดมะนาวไม่มีน้ำ พูดค่อยไม่เพราะ แต่มีความจริงใจเท่านั้นเอง”