“อ้อม พิยดา” กลั้นน้ำตาอาลัย “เปี๊ยก พิศาล” บอกพ่อไม่ต้องเป็นห่วง

เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2561 ,16:17น.

นักแสดง-ผู้จัดสาว “อ้อม พิยดา” พร้อมพี่สาว “อ๋อ ศิรดา” กลั้นน้ำตาเปิดใจกับสื่อมวลชน เตรียมอ่านคำไว้อาลัย “พ่อเปี๊ยก พิศาล” เป็นครั้งสุดท้าย ด้านพี่ชายและน้องชายบวชหน้าไฟทดแทนบุญคุณ

วันนี้ ( 12 ธันวาคม ) ที่ วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร มีพิธีฌาปณกิจศพ นักแสดง – ผู้กำกับชื่อดัง “เปี๊ยก พิศาล อัครเศรณี” วัย 73 ปี ที่เสียชีวิตกระทันหันจากภาะหัวใจล้มเหลว เมื่อวันที่4 ธันวาคมที่ผ่านมา

โดย “อ้อม พิยดา” พร้อมพี่สาว “อ๋อ ศิรดา” ได้เปิดใจถึง “พ่อเปี๊ยก” เป็นครั้งสุดท้าย

“ตอนนี้อ้อมพยายามกลั้นน้ำตา พอดีพี่ชายกับน้องชายที่บวชอยู่ (พระโอ อัครพล และ พระโอ๊ต นนทพร ) บวชหน้าไฟให้พ่อ เลยเหลืออ้อมกับอ๋อ ลูกสาว2คน ส่วนบรรยากาศในช่วงเช้าเป็นไปได้ด้วยดีราบรื่น ญาติพี่น้องเพื่อนพ่อและเพื่อนลูกๆมาให้กำลังใจกัน รู้สึกที่มีคนรักพ่อเยอะมากจริงๆ ต้องกราบขอบพระคุณทุกท่านผ่านทางสื่อและสำหรับที่แสดงความเสียใจทางโซเชี่ยล เราไม่มีเวลาตอบในอินสตาแกรม เพราะอ่านแล้วรู้สึกไม่ไหว ตอนนี้พยายามเข้มแข็งเพราะต้องอ่านคำไว้อาลัยให้พ่อ หนังสือที่แจกเป็นหนังสือที่รวบรวมมานานแล้วเมื่อ 5 ปีที่แล้ว รวบรวมประวัติเพื่อขอศิลปินแห่งชาติ จะมียื่นเปิดปีหน้าแต่ไม่ทัน ก็เป็นการรวบรวมประวัติเกี่ยวกับการทำงานทั้งหมดในชีวิตของเขา เพิ่งเสร็จก่อนเสียชีวิต 2 สัปดาห์ ถามว่าเสียดายแทนคุณพ่อไหมก็ไม่เป็นไรค่ะ สำหรับงานที่สานต่อคุณพ่อมีที่กำลังจะเริ่มแต่ว่าไม่ได้เริ่ม คิดว่าคงไม่ได้ทำ เพราะว่าอ้อมยังมีงานที่ตัวเองต้องทำอยู่ ส่วนละครของที่ถ่ายทำเสร็จแล้วแต่ยังไม่ออกอากาศก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทางช่อง3อีกที รู้สึกปลื้มปิติที่คุณพ่อเปรียบเป็นปูชนียบุคคลของวงการบันเทิง ปลื้มใจแทนคุณพ่อและคุณแม่ด้วย คนที่มางานก็เสียใจและให้กำลังใจลูกๆทุกคน ด้วยการจากไปของพ่อค่อนข้างกระทันหันทุกคนช็อคกันหมด

ส่วนเรื่องเก็บอัฐิไว้ที่ไหน ก็เดี๋ยวยังคุยกันไม่ลงตัวนะคะ น่าจะมีเก็บอัฐิเอาไว้ ณ วัดใดวัดหนึ่ง แล้วก็มีบางส่วนไปลอยอังคาร แต่ว่ายังไม่ทราบ กำลังดูอยู่ว่าพ่อเวลาไปถ่ายเขาชอบโลเคชั่นที่ไหน ส่วนใหญ่เขาจะไปแถวปราณบุรี ก็ยังคุยกันอยู่ว่าจะไปลอยที่เป็นธุลี เป็นเถ้าผง ก็น่าจะไปลอยที่โน้น ส่วนกระดูกเก็บไว้ที่ไหน เดี๋ยวแจ้งให้ทราบอีกทีหนึ่งค่ะ เพราะว่าตอนนี้ก็ยังไม่ได้คุยกัน 4 คน เพราะว่าก็มีบวชให้พ่ออยู่ พวกเรา 4 คนก็ยังอยู่กันแน่นแฟ้นเหมือนเดิมค่ะ ถ้าถึงวันเกิดพ่อหรือวันพ่อ เราก็ยังรวมตัวกันเหมือนเดิม เหมือนที่เราเคยเจอๆกัน เกือบอาทิตย์ หรือ 2-3 อาทิตย์เจอกันที ก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่ คุณพ่อไม่มาหาหรือเข้าฝันเลยค่ะ ใครเจอพ่อบอกที ให้มาหาลูกๆหน่อยค่ะ ไม่มีมาเลย มีแต่ได้ยินเสียงหมาหอน เสียงทุบกำแพงบ้าน อย่างแม่ได้ยิน ก็จะมีแต่รอบด้านๆ แล้วก็มีไปหาเพื่อนเขา ที่เพื่อนเขาฝันคือเหมือนอยากกินก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เมืองกาญจนบุรี แต่ว่ามาหาลูกๆหรือภรรยานี่ไม่มีเลย สภาพจิตใจคุณแม่ตอนนี้ คุณแม่ก็เข้มแข็งค่ะ แต่ก็เข้าๆ ออกๆ เหมือนกัน บางทีเดี๋ยวก็ร้อง เดี๋ยวก็หาย แต่เดี๋ยวหลังจากวันนี้พวกเราน่าจะแย่มากพอสมควร อย่างพรุ่งนี้ที่มาเก็บอัฐิอะไรแบบนี้

พ่อสอนพวกเรามาตลอดนะคะ ว่าให้เราติดดิน ให้เราเป็นคนดี ถ้าเราเป็นคนดี เราก็จะได้ดี ให้เราอดทน ขยัน และรักพระมหากษัตริย์ พ่อจะสอนให้รักแผ่นดิน รักบ้านเกิด คือจะสอนแบบนี้มาตลอด พวกเราทั้ง 4 คนก็พยายามปฏิบัติตามคำสอนของพ่อมาโดยตลอด และตรงต่อเวลาที่จะทำได้บ้างไม่ได้บ้าง (หัวเราะ) จริงๆ ที่พ่อสอนอย่างเดียวเลย คือสอนให้เป็นคนดี สุดท้ายนี้อยากจะบอกว่า พ่อไม่ต้องห่วง ลูกๆ ทุกคนเข้มแข็ง อย่างวันนี้ทุกคนพยายามเข้มแข็งและอยู่ในสมาธิ เพื่อที่จะให้วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดีที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำได้ พวกเราตั้งสติและตั้งสมาธิกันทั้ง 4 คน พี่ชายน้องชายก็ตั้งสติครองอยู่ในผ้าเหลืองให้ได้ดีที่สุด ส่วนเรา 2 คนก็อยู่ในโลกมนุษย์ ดูแลแขกทุกคนของพ่อที่มากันด้วยแรงรัก และกำลังใจที่มีมาให้ถึงพวกเรา เราก็ตั้งใจจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด พรุ่งนี้ถ้าล้มระเนระนาดก็ค่อยว่ากัน แต่ก็ช็อคค่ะ”