30 ปี ชุบชีวิต 3 ครั้ง "จินตหรา พูนลาภ" ดินกลบหน้า ก็จะไม่ลืมแฟนเพลง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




นักร้องเสียงพิณ เจ้าของทรงผมหน้าม้า "จินตหรา พูนลาภ" ผู้หญิงที่ใครๆก็คิดว่าเธอคือนักร้องลูกทุ่งเบอร์ต้นๆของประเทศ งานแน่น งานชุก แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า 30 ปี ในวงการ เธอถูกชุบชีวิตขึ้นมาถึง 3 ครั้ง

"จำได้ว่านะ ตอนแรกๆที่เข้าวงการมา แล้วเราก็บูมขึ้นมาประมาณ 2-3 ชุด พอมาชุดที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 มันก็เป็นอะไรที่เหมือนกับเราก็ยังไม่ชิน เพราะว่าเราอยู่นานมาพอสมควรมาเป็น 10 ปี แล้วอยู่ดีๆแล้วมันลงมา ถามว่ารับได้ไหม มันไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรหรอกตอนนั้นยังเด็ก แต่เรารู้สึกแค่ว่าแฟนเพลงทำไมน้อยลง ไปไหนทำไมคนไม่ค่อยมาล้อมถ่ายรูปเหมือนเดิมที่เราจับต้องได้ตอนที่เรามาใหม่ๆ แล้วก็บูมช่วงที่ร้องเพลงกับ "พี่เบิร์ด" ( ธงไชย แมคอินไตย์ ) ตอนนั้นมีไปรับรางวัลที่ต่างประเทศ มีช่างแต่งหน้าที่เป็นฝรั่งมาแต่งให้ แล้วก็มาช่วงเพลง "แตงโมจินตหรา" แล้วก็มาเพลง "เต่างอย" ซึ่ง "เต่างอย" ชุบชีวิตรอบที่ 3 ก็ว่าได้ตั้งแต่เป็นนักร้องมา
คือเราจับต้องได้กับงานการแสดงคอนเสิร์ต แล้วก็จับต้องได้กับกระแสที่เราได้ทำ เวลาไปเล่นคอนเสิร์ต เราเห็นแฟนเพลงเขาร้องได้ ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเพลงที่ติดตลาดธรรมดาคนทั่วไปก็จะร้องตามไม่ได้ทุกคน แต่เพลงนี้คือเด็กก็ร้องได้ ผู้ใหญ่ก็ร้องได้ คือบอกว่า "เต่างอย" เขาก็จะรู้ว่าเป็นของพี่จิน ( ยิ้ม )  พี่ภูมิใจมาก อีกครั้งหนึ่งที่เราเหมือนกับได้ฟื้นฟูชีวิตเราอีก มันเป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิด 


ถ้าถามว่าพลิกชีวิตเยอะไหม คือสมัยก่อนคำว่าพลิกเรื่องเงินจะเข้ามาเยอะอยู่ เพราะว่ามันด้วยค่าใช้จ่ายไม่เหมือนทุกวันนี้ แต่ทุกวันนี้มันจะอีกรูปแบบหนึ่งคือมันเป็นแบบยูทูปก็ได้งานแล้วก็ได้งานโฆษณาบ้าง ก็ดีสำหรับสภาวะทุกวันนี้ที่มันฝืดเคือง เราก็อยู่ไปกับเขาได้ แต่ไม่ได้ฟู่ฟ่ามากเหมือนสมัยก่อน ตอนนี้ตกใจตรงที่มาเพิ่มกลุ่มค่ะ เพิ่มกลุ่มว่าทำไมไฮโซจ้างเราไว้ที่โรงแรมหรูๆ ซึ่งตอนนั้นเราดังตอนนั้นเราก็ได้ไปงานวัดงานบุญ ตอนนี้ไปโรงแรมหรูๆ ไประดับที่ใหญ่ๆ แล้วก็ไปต่างประเทศที่ใหญ่ๆซึ่งเราไม่เคยไปมาก่อน และกลับมามีโฆษณาในรอบ 17 ปี" 


เมื่อถูกชุบชีวิตครั้งที่ 3 เธอจึงเล่าให้ฟังว่า ช่วงชีวิตที่เคยท้อ มันหนักหนามากจริงๆ แต่เธอมองว่าทุกอย่างคือ "กำไรชีวิต" 
"สมัยก่อนเคยท้อ เพราะว่าสมัยก่อนตอนที่เรามีชื่อเสียงใหม่ๆ เรามีการตั้งวงมีลูกน้องประมาณ 100-200 คน พอ ณ เวลาหนึ่งที่คนดูน้อยลงก็ขาดทุน แต่เราก็ผ่านวิกฤติช่วงนั้นมา จนมาถึงตอนนี้แล้วอยู่ในวงการมาตั้งแต่ 30 กว่าปี ไม่มีอะไรจะท้อมันคือกำไร ที่ว่ากำไรไม่ได้หมายถึงเรื่องเงินนะ หมายถึงกำไรชีวิต มันคือทำอะไรให้ดีที่สุด ถ้าเรารักมัน ตอนนี้เราภูมิใจอยู่ เราก็จะรีบทำสิ่งที่เรายังมีแรงต่อไปมันจะได้ไม่ได้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ตอนนี้มันชินกับที่ว่าเราต้องยอมรับนะ ถ้ามันไม่มีอีก มันหลายรอบ ถ้าจะพูดก็ก่อนคนอื่นแล้ว ก็โอเคแล้วนะ แล้วก็อยู่นานอายุมันเพิ่มขึ้น ถ้ามันจะมีอีกก็คงเป็นเรื่องที่แปลกที่สุดในโลกเลยล่ะ" 
กำไรชีวิตและความแปลกที่สุดในโลก สิ่งเหล่านั้นเธอพูดอย่างเต็มปากเต็มคำและจากหัวใจว่ามันมาจากกำลังใจของ 'แฟนเพลง" 
"สุดยอดค่ะ ใช่ที่สุดในโลกเลย มีคนความเข้ามาหาเรา เห้ย!! ทำไมทำได้ ทำไมเก่งจังเลย เวลาเราไปหน้าเวทีเหมือนกัน เราเห็นเด็กรุ่นใหม่ที่มา รักเราเพิ่มขึ้น ทุกอย่างใกล้ตัว ทุกอย่างที่มันจับต้องได้หมด มันเป็นกำลังใจ เป็นอะไรที่เราไม่ละ เราเห็นความสำคัญทุกๆจุด ทุกๆอย่าง บางทีเราเหนื่อยมากๆ ทำงานติดต่อกัน น้อนน้อย แต่พอขึ้นเวทีแล้วทุกคนสนุก นั่นคือพลังจากพวกเขาที่ส่งมาให้ เราก็สนุกไปด้วย ทุกครั้งที่เราก้าวเราเดินกับถนนเส้นนี้ เราจะต้องคิดก่อน ไปตรงนี้เราควรจะอ่อนน้อมถ่อมตนประมาณไหน มันก็มีอยู่เนอะบางครั้งเป็นองค์ประกอบหลายๆอย่าง
สำหรับแฟนๆนะคะ "ดินกลบหน้าก็จะไม่ลืม" สาธุ ( ยกมือไหว้ ) คิดไว้ว่า ทุกครั้งที่เราเคยท้อกับถนนเส้นนี้ว่ามันจบแล้วเหรอ หรือมันมีข่าวก็เคยมีเหมือนกัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างแฟนเพลงก็ไม่เคยทิ้งเราเลย ไม่ว่าจะกี่ปีกี่รุ่นก็ให้โอกาสและให้กำลังใจอยู่เคียงข้างกันมาตลอด แฟนเพลงเป็นกำลังใจที่ดีที่สุด พูดบรรยายไม่ได้ บรรยายไม่ได้ๆจริงค่ะ ว่าเราอยู่ที่ไหน เราทำอะไรมาก่อน เรามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ทุกสิ่งทุกอย่างคือแฟนเพลงอุ้มเราไว้”


เมื่อถามย้อนกลับไปถึง 30 ปีก่อน กว่าจะมาถึงจุดที่เป็น นักร้องเสียงพิณ มันไม่ง่ายเลย ที่โชคชะตาฟ้าลิขิตให้มาเส้นทางนี้
"เชื่อไหมคะว่าในบางอย่าง เหมือนกับจินจะไม่ค่อยได้กำหนดชะตาชีวิตของตัวเองสักเท่าไหร่ ด้วยมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่จบ ป.6 มาก็เข้าวงการ ก็เริ่มมาอยู่ในวงการนี้เลยต่อเนื่อง มันเหมือนบางทีก็เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ เชื่อเรื่องกราฟชีวิต เชื่อเรื่องโชคชะตาพรหมลิขิต บางทีก็เชื่อสิ่งที่เรารักและตั้งใจด้วย บางทีเรานั่งคิดว่าทำไมเราถึงอยู่ได้นาน บางทีเราคิดอยากจะพักมันก็พักไม่ได้ เออเราไม่ว่าดีกว่า เดี๋ยวมันจะได้พักจริงๆ แล้วเราโหยหาแล้วจะไม่ได้ เราก็เลยมีความตั้งใจ การที่เราอยากจะอยู่ในวงการนี้ เราต้องรักเขา เราต้องเทิดทูนเขา ทุกสิ่งอย่างที่มันเกี่ยวข้องกับเสียงเพลง จินจะไหว้ก่อนทุกครั้ง จินจะคิดว่านี่คืองานของเราทั้งหมด จะไม่ปล่อยปละละเลย จินก็เลยมีความโฟกัสเดียว ไม่ได้คิดทำธุรกิจอื่นๆ ไม่ได้คิดทำอย่างอื่น ทำเพลงอย่างเดียว เพราะคิดว่าเรามีโชคทางด้านนี้ น่าจะเป็นพรหมลิขิตทำให้เรามาด้านนี้ ไม่เคยคิดเรื่องอื่นเลย มีเพลงสตริงมาก็ทำ เพลงลูกทุ่งก็ทำ จะได้ระดับไหนนั้นคือแฟนเพลงเขาตอบให้เราเอง แต่จินก็ทำทุกอย่างก็สู้ทุกอย่างเพื่องาน และเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ณ เวลานั้นๆ แต่จินก็ไม่ทิ้งความเป็นแบบเดิมของเรา เพียงแต่จับมาผสม การทำงานแบบนี้มันไม่มีการสิ้นสุด มันเป็นการค้นหา การร้องเพลงคือความสุขในชีวิต อันนี้ยอมรับว่า เข้าสายเลือดและก็เส้นเลือด"


สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลย เมื่อเราได้นั่งคุยกับนักร้องคนนี้ นั่นคือความสวยที่ดูไม่เปลี่ยนไป เมือเราชม เธอถึงกับหัวเราะออกมา 
"ก็มีแฟนเพลงพูดตรงๆเลยนะ ผมไม่เคยชอบพี่เลยตอนนู้น ผมดูในทีวีนึกว่าพี่แก่แล้ว พอมาดูใกล้ๆพี่ยังเด็กอยู่นะ ก็มีแซวเล่นเหมือนกัน จีบพี่ดีไหมเนี่ย อันนี้ก็แซวไปเนอะ ( หัวเราะ )  บางคนบอก เห้ย!! พี่รู้ไหม ผมดูพี่ตั้งแต่ตอนที่แม่ผมพาไปดูพี่นะ ทำไมพี่ไม่เปลี่ยนเลย ก็ได้ยินฟีดแบคมาบ่อยๆ แต่เอาจริงๆแล้วมองเผินๆ อาจจะเพราะเรามีทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ ปิดบังและมีรูปร่างที่ไม่ใหญ่อะไรมาก แต่จริงๆแล้วร่างกายข้างในเราค่อนข้างทำงานหนักก็เยอะอยู่ค่ะ ก็ไปตามอายุและตามวัยค่ะ ได้ดูแลตัวเองเยอะสมัยตอนที่งานเพลงซาๆ มีเวลาว่ายน้ำ ได้ออกกำลังกาย ซึ่งทุกวันนี้ก็พยายามดูแลตัวเองให้มากที่สุด ใส่ใจการกินเป็นหลักด้วย" 
"ภักดีที่เจ็บ" ผลงานเพลงใส่ ที่ปรับให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น นี่คือสิ่งที่นักร้องคนนี้ยอมรับในการเปลี่ยนแปลงและเลือกที่จะหมุนไปตามโลก แต่ก็ไม่ทิ้งความเป็น "หมอลำ" สิ่งที่สร้างชื่อเสียงให้มีทุกวันนี้ 
"ภักดีที่เจ็บ เป็นประมาณลูกทุ่งอินดี้ เป็นเพลงช้า เพราะเราเองก็หายจากเพลงช้าไป ที่ผ่านมาจะมีเพลงจังหวะเร็วๆมาหลายเพลงแล้ว ก็เลยเลือกที่จะสลับดูบ้าง ขอบคุณกระแสตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ฝากผลงานเพลงนี้ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชอบ 
แต่อยากจะบอกว่าสิ่งหนึ่งไม่เคยลืมคือลูกทุ่งหมอลำ อันนี้ทิ้งไม่ได้ค่ะต้องออกมาเรื่อยๆ ความเป็นหมอลำทิ้งไม่ได้หรอก เพราะต้นตอของเราเติบโตมาจากตรงนี้ ก่อนจะส่งเรามาถึงความสำเร็จตัวตนของเราก็คือเด็กบ้านนอกและหมอลำ อันนี้ทิ้งไม่ได้เด็ดขาด ต้นตอแห่งความสำเร็จของเราตั้งแต่จุดเริ่มต้น จินจะไม่ทิ้งหมอลำค่ะ"


ขอบคุณภาพจาก IG Jinrara_poonlarp

 

TOP ข่าวบันเทิง
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ