ต่อมา ยาง ฮยอนซอก ประธานค่าย YG Entertainment เล็งเห็นถึงความสามารถจึงได้รับตัวเข้ามาฝึกหัดเป็นเด็กฝึกในสังกัด โดยยาง ฮยอนซอก เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า “ซึงรีอายุยังน้อย และยังไม่เคยได้รับการฝึก เชื่อว่าถ้าได้รับการฝึกฝนจะต้องทำได้ดีเพราะความสามารถที่โดดเด่นของซึงรีอยู่ที่การเต้นและการออกแบบท่าเต้น”
"ซึงรี BIGBANG" ประกาศลาออกจากวงการหลังเจอคดีค้าประเวณี
ด้วยความพยายามและการฝึกซ้อมเป็นอย่างหนักจนวันหนึ่ง YG Entertainment ปล่อยสารคดี BIGBANG Documentary จำนวนทั้งหมด 11 ตอน เพื่อเปิดโอกาสให้ศิลปินฝึกหัดได้เดบิวต์และให้แฟนๆได้เห็นถึงความสามารถของตัวศิลปินก่อนที่จะประกาศคัดเลือก 4 คน คือ จีดรากอน, แทยัง,ท็อป และแดซอง แต่ประธาน ยาง ฮยอนซอก ได้ให้โอกาสเด็กฝึกหัดทั้งสองคนที่เหลืออย่าง ซึงรี กับ จางฮยอนซึง (ภายหลังเดบิวต์กับวง Beast) ได้พิสูจน์ตัวเอง และซึงรีได้รับโอกาสในการเดบิวต์ร่วมกับเมมเบอร์คนอื่นในนามวง BIGBANG และเซ็นสัญญากับ YG Entertainment
นอกเหนือจากนั้นแล้ว ซึงรี ยังหันมาทำธุรกิจทั้งธุรกิจร้านอาหารและธุรกิจสถานบันเทิง ด้วยการเริ่มต้นทำธุรกิจร้าน ราเมง ที่มีชื่อว่า Aori Ramen จนประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ขยายสาขาได้อย่างรวดเร็วถึง 30 สาขาทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ
ตามมาด้วยธุรกิจสถานบันเทิงที่มีชื่อว่า Burning Sun และ Monkey Museum บาร์หรูระดับ High Class รวมถึงธุรกิจอีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น Seungri Academy บริษัทฝึกการร้องและการเต้น และ HNR บริษัท DJ ในเครือธุรกิจบันเทิงของเขา และนอกจากการทำธุรกิจแล้ว ซึงรี ยังก้าวขึ้นมาเป็น CEO “YGX” บริษัทในเครือของ YG Entertainment ซึ่งจะควบคุมดูแล HIGHGRND ค่ายเพลงในเครือของ YG นอกจากนี้ยังจะดูแลสถาบันสอนเต้น โดยใช้ชื่อว่า YGX Academy อีกด้วย
แต่ดูเหมือนวันนี้มรสุมลูกใหญ่กำลังเข้ามาทำให้ชีวิต “ซึงรี” เปลี่ยนไปเมื่อซึงรีกำลังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการสืบสวนจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อสืบหาข้อสรุปที่แน่ชัด หลังจากที่เขาก็ได้ออกมาประกาศลาออกจากวงการบันเทิงเกาหลีใต้ผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัวเพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
เปิดเส้นทางความเป็น “BIGBANG” ที่ครองใจแฟนคลับยาวนาน 12 ปี