เจาะสาเหตุเดนมาร์กสั่งฆ่ามิงค์ 17 ล้านตัว สกัดโควิด-19
“เดนมาร์ก” เตรียมกำจัดมิงค์ 17 ล้านตัว ป้องกันโควิด-19 กลายพันธุ์
เดนมาร์กพบผู้ป่วยโควิด-19 ที่คาดว่าติดมาจากตัวมิงค์ 214 ราย
ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในมิงค์ทำให้เดนมาร์ก ซึ่งเป็นผู้ผลิตขนมิงค์รายใหญ่ที่สุดในโลก กำจัดตัวมิงค์ทั่วประเทศเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
การกำจัดมิงค์ริเริ่มโดยการวิจัยจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขของเดนมาร์ก Statens Serum Institut (SSI) ซึ่งชี้ให้เห็นว่า เชื้อโควิด-19 ในมิงค์สายพันธุ์ที่เรียกว่า C5 นั้น ยากต่อการทำให้เป็นกลางด้วยแอนติบอดี และอาจเป็นภัยคุกคามต่อประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19
เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ สวิตเซอร์แลนด์ หมู่เกาะแฟโร รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา คือ 7 ประเทศที่รายงานพบกรณีการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ที่เกี่ยวข้องกับตัวมิงค์ โดยมีเพียงเดนมาร์กที่พบมนุษย์ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่จากตัวมิงค์นี้
นักวิทยาศาสตร์เดนมาร์กได้อัปโหลดลำดับไวรัสและข้อมูลตัวแปรไปยัง Gisaid sหรือโครงการฐานข้อมูลระดับโลก ระบุว่า มีสัญญาณการกลายพันธุ์ของโควิด-19 ในตัวมิงค์ทั่วโลก
ฟรังซัวส์ บัลลู (Francois Balloux) ผู้อำนวยการสถาบันพันธุศาสตร์ University College London (UCL) กล่าวว่า การค้นพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในตัวมิงค์ เป็นข้อบ่งชี้ถึงความจำเป็นในการกำจัดมิงค์ที่เลี้ยงในฟาร์มต่าง ๆ
“จำนวนพาหะที่เพิ่มขึ้น หมายถึงโอกาสการติดเชื้อในมนุษย์มีมากขึ้น ผมคิดว่าประเด็นหลักก็คือ แม้ว่าการกลายพันธุ์อาจไม่น่ากลัว แต่ก็มีเหตุผลเพียงพอในการกำจัดตัวมิงค์” บัลลูบอก และเสริมว่า เฉพาะในเดนมาร์ก ประชากรตัวมิงค์มีมากกว่ามนุษย์ถึง 3 เท่า ซึ่งหากพวกมันส่วนใหญ่ติดโควิด-19 และแพร่มาสู่มนุษย์ได้ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนั้นน่ากลัวเกินกว่าจะคาดเดา
ศ.เซชาดรี วสันต์ (Seshadri Vasan) จากมหาวิทยาลัยยอร์ก ผู้วิเคราะห์ฐานข้อมูลสำหรับสายพันธุ์โควิด-19 ในมิงค์กล่าวว่า “เราพบลำดับพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในมิงค์ที่เดนมาร์ก 329 ลำดับ เนเธอร์แลนด์ 6 ลำดับ แอฟริกาใต้และสวิตเซอร์แลนด์แห่งละ 2 ลำดับ หมู่เกาะแฟโร รัสเซีย และรัซยูทาห์ (สหรัฐอเมริกา) มีแห่งละ 1 ลำดับ”
เมื่อถามว่าการแพร่กระจายอาจเกิดขึ้นได้อย่างไร วสันต์กล่าวว่า จากตัวอย่างที่เก็บรวบรวมจากตัวมิงค์และมนุษย์ในเดนมาร์กในเดือนมิถุนายน อาจเป็นไปได้ว่า การเคลื่อนย้ายของคน สัตว์ หรือสินค้า อาจทำให้ลำดับเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลายพันธุ์แพร่กระจายไปยังประเทศอื่น ๆ
แต่เนื่องจากฐานข้อมูล Gisaid มีเพียงข้อมูลผู้ป่วยเพียงส่วนหนึ่ง และไม่มีประวัติการเดินทางของประชาชน และเนื่องจากตัวอย่างบางส่วนไม่มีวันที่เก็บข้อมูล จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะระบุว่า การแพร่กระจายเกิดขึ้นอย่างไรและเมื่อใด
เป็นที่ททราบกันดีว่า โดยธรรมชาติ ไวรัสสามารถกลายพันธุ์ได้ ศ.โจแอนน์ แซนตินี (Joanne Santini) นักจุลชีววิทยาของ UCL กล่าวว่า เรายังไม่รู้ว่าการกลายพันธุ์นี้เกิดขึ้นในตัวมิงค์หรือมนุษย์ก่อน แต่เบื้องต้นการกลายพันธุ์นี้ไม่น่าจะก่อให้เกิดความเสี่ยงร้ายแรงใด ๆ ต่อประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ในปัจจุบัน หรือก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อสุขภาพของประชาชน
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP / Shutterstock