ด่วน!! คำสั่ง "ผบ.สส." แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน คืนชีพด่าน คุมชุมนุม สแกนต่างด้าว ป้อง "โควิด" อีกรอบ
เปิดเส้นทางลักลอบเข้าเมืองชายแดนไทย-เมียนมา
รายงานการวิจัยล่าสุดเป็นผลงานของศูนย์วิจัย Imperial College London ดำเนินการสำรวจแบบสุ่มกับผู้คนจำนวน 100,000 คน ในช่วงวันที 13-24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยไม่คำนึงว่าคนๆ นั้นจะติดเชื้อหรือไม่ พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยไม่คำนึงว่าคนๆ นั้นจะติดเชื้อหรือไม่
ผลสรุปของงานวิจัยนี้ระบุว่า สัดส่วนการติดเชื้อลดลง เดิมในประชากร 10,000 คน ติดเชื้อ 132 คนตอนนี้ใน 10,000 คน เหลือติดเชื้อ 96 คน
แนวโน้มที่ดีขึ้นสะท้อนผ่านจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตล่าสุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่กว่า 12,000 คน ผู้เสียชีวิตมี 215 คน ลดลงจากวันเสาร์ที่มีผู้ติดเชื้อใหม่ 15,000 คน ผู้เสียชีวิต 479 คน
ภาพรวมสถานการณ์ดีขึ้นเพราะการตัดสินใจล๊อคดาวน์ ปัจจุบันร้อยละ 99 ของพื้นที่ทั่วอังกฤษบังคับใช้มาตรการล็อคดาวน์ระดับ 2 ซึ่งเป็นระดับการป้องกันสำหรับพื้นที่ที่มีการแพร่เชื้อสูง โดยเริ่มใช้มาตรการนี้มาตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน
มาตรการระดับ 2 กำหนดให้ชาวอังกฤษไม่สามารถรวมตัวในสถานที่ปิดร่วมกับผู้อื่นที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัว แต่สามารรถรวมตัวในสถานที่กลางแจ้งได้ไม่เกิน 6 คน
ยังไม่ชัดเจนว่ามาตรการเหล่านี้จะบังคับใช้ไปถึงเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆ คือครอบคลุมเทศกาลคริสต์มาส เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวเป็นนัยว่าข้อบังคับทั้งหมดอาจสิ้นสุดลงในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ หรืออีก 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งการปิดประเทศแบบเข้มงวดนาน 1 เดือน ทำให้คนออกมาประท้วงวันเสาร์มีประท้วงใหญ่ คนถูกจับกุมไป 150 คน
เป็นการประท้วงต่อต้านมาตรการควบคุมโรคระบาดแบบเข้มงวดในกรุงลอนดอน คนที่ออกมามีทั้งไม่พอใจผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการปิดประเทศ บางคนเป็นพวกต่อต้านการฉีดวัคซีน และมีจำนวนหนึ่งออกมาประท้วงเพราะไม่เชื่อว่าไวรัสโควิด-19 มีอยู่จริง
เกิดการตะลุมบอนระหว่างตำรวจและผู้ประท้วง มีการใช้กระบองตีผู้ประท้วงบางราย หลังจากนั้นก็เริ่มจับผู้ประท้วงหลายรายกดลงพื้น ใส่กุญแจเพื่อจับกุมตัว
ผู้ประท้วงบางคนโยนแผงกั้นและรั้วเหล็กใส่เจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจจับกุมผู้ประท้วงแล้วกว่า 155 ราย ในข้อหาละเมิดมาตรการควบคุมโรคระบาด ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และมียาเสพติดไว้ในครอบครอง
ตอนนี้หลายฝ่ายกังวลว่าการรวมตัวของประชาชนในช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะทำให้สถานการณ์โรคระบาดในอังกฤษกลับมารุนแรงอีกครั้ง
ด้านบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้แถลงการณ์ขอให้ประชาชนลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ไม่เช่นนั้นอังกฤษอาจต้องปิดประเทศรอบที่ 3 ในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้
เช่นเดียวกับโดมินิก ร้าบ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศอังกฤษ ที่ออกมาเตือนว่า หากอังกฤษไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ อังกฤษอาจเจอการระบาดระลอก 3 ในช่วงต้นปีหน้า
โดยโดมินิก ร้าบ กล่าวว่า รัฐบาลจะทำทุกวิถีทางเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดประเทศรอบที่ 3 หนึ่งในวิธีที่จะทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติก็คือ การฉีดวัคซีนต้านโควิด-19
ขณะนี้รัฐบาลอังกฤษได้สั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ็อกฟอร์ด ร่วมกับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า 100 ล้านโดส และคาดว่าจะเริ่มแจกจ่ายให้ประชาชนก่อนคริสต์มาสที่จะถึงนี้
ขณะนี้อังกฤษมียอดผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 1 ล้าน 6 แสนราย และมียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 58,000 ราย