นักวิทย์เร่งศึกษา โควิด-19 พันธุ์แอฟริกาใต้ “501.V2” กระทบประสิทธิภาพวัคซีนหรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญชี้โควิด-19 กลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้อาจดื้อยา
ซเวลิ เอ็มกีเซ รัฐมนตรีสาธารณสุขของแอฟริกาใต้เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า แอฟริกาใต้ต้องระงับการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ร่วมกับบริษัทแอสตร้าเซนเนกาเป็นการชั่วคราว
เนื่องจากผลการทดสอบวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในอาสาสมัคร 2,000 คนชี้ว่า วัคซีนของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อใช้ป้องกันการติดเชื้อโควิด-9 กลายพันธุ์ชนิดใหม่จากแอฟริกาที่มีชื่อว่า B1351
โดยวัคซีนสามารถป้องกันผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงและอาการปานกลางจากการติดเชื้อไวรัสกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ได้เพียงเล็กน้อยหรือร้อยละ 22 เท่านั้น ซึ่งถือว่าต่ำกว่าเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ต้องมีประสิทธิภาพร้อยละ 50 ขึ้นไป
กระทรวงสาธารณสุขของแอฟริกาใต้ประกาศว่า แอฟริกาใต้จะรอให้ทางแอสตร้าเซนเนกาศึกษาประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพิ่มเติม ก่อนจะเริ่มแจกจ่ายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนในวงกว้าง
ก่อนหน้านี้ทางบริษัทแอสตร้าเซนเนการะบุว่า วัคซีนสามารถป้องกันอาการติดเชื้อรุนแรงที่เกิดจากโควิดกลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ได้
แอฟริกาใต้สั่งจองวัคซีนของแอสตราเซเนกาไว้ และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วัคซีนตัวนี้ที่ผลิตโดยสถาบันเซรั่มของอินเดียล็อตแรกจำนวน 1 ล้านโดสก็ถูกส่งมาถึง
แต่เดิมมีกำหนดฉีดให้ประชาชนภายในสัปดาห์หน้า แต่ประสิทธิภาพของวัคซีนที่ยังไม่ชัดเจนทำให้ต้องระงับแผนการไปชั่วคราว
แต่ถึงไม่มีวัคซีนของแอสตราเซเนกา แอฟริกาใต้ก็มีแผนสำรอง เพราะได้สั่งวัคซีนที่พัฒนาและผลิตโดยบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันและไฟเซอร์ไว้ด้วย
โดยจะเริ่มฉีดวัคซีนทั้งสองตัวนี้ให้ประชาชนภายในไม่อีกกี่สัปดาห์ข้างหน้า แอฟริกาใต้ได้สั่งซื้อวัคซีนประมาณ 50 ล้านโดสจากผู้ผลิตหลายราย
แอฟริกาใต้มีประชากร 58 ล้านคน รัฐบาลต้องเป้าไว้ว่า ภายในสิ้นปีจะฉีดวัคซีนให้ได้ 40 ล้านคน หรือ 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ
แม้แอฟริกาใต้จะสิ่งวัคซีนไว้เพียงพอและเตรียมฉีดให้เร็วที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่มั่นใจในประสิทธิภาพและอยากจะฉีด
ไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ชนิดใหม่จากแอฟริกาใต้ คือไวรัสกลายพันธุ์ที่หลายประเทศทั่วโลกต่างแสดงความกังวล เพราะไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้สามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมหลายเท่าตัว และแพร่ระบาดไปมากกว่า 30 ประเทศทั่วโลกแล้ว
โดยขณะนี้แอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่พบไวรัสกลายพันธุ์ B1351 ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับไวรัสกลายพันธุ์ชนิดนี้เป็นพิเศษ เพราะร้อยละ 90 ของเคสผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของแอฟริกาใต้ คือผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์
แอฟริกาใต้มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมมากกว่า 1 ล้าน 4 แสนราย เสียชีวิตแล้วกว่า 46,000 ราย