ชาวเมียนมาต่อสู้กับกองทัพด้วยเทคโนโลยีและความเชื่อ
“ยูทูบ” แบนช่องของทหารเมียนมา 5 ช่อง
ทางการเมียนมาจับกุมนักข่าว 6 คน เหตุรายงานข่าวการชุมนุม
รัฐบาลทหารของเมียนมาได้เพิกถอนใบอนุญาตของสื่อ 5 แห่ง เป็นความพยายามที่จะระงับการรายงานข่าวการประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ถือเป็นการทำลายเสรีภาพสื่อมวลชนในประเทศครั้งใหญ่
Mizzima, Democratic Voice of Burma (DVB), Khit Thit Media, Myanmar Now และ 7Day News คือ 5 สื่อที่ได้รับคำสั่งให้ปิดทำการ โดยสื่อ MRTV ของรัฐกล่าวว่า “บริษัทสื่อเหล่านี้จะไม่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศ หรือเขียน หรือให้ข้อมูล โดยใช้แพลตฟอร์มสื่อใด ๆ หรือใช้เทคโนโลยีสื่อใด ๆ อีกต่อไป”
สื่อต่าง ๆ ได้รายงานข่าวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการประท้วงในเมียนมาตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงรายงานการตอบโต้ที่โหดร้ายของกองกำลังความมั่นคง
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนในเมียนมาหลายแสนคนออกไปตามท้องถนนเพื่อเรียกร้องให้กองทัพส่งมอบอำนาจคืนให้กับรัฐบาลของนางอองซาน ซูจี ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกองกำลังกลับตอบโต้ด้วยกำลังร้ายแรงทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสมแล้วอย่างน้อย 54 คน ผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิเตือนว่า ทหารเมียนมาหันมาใช้แนวทาง “ยิงเพื่อฆ่า” แล้ว
เมื่อเย็นวันจันทร์ (8 มี.ค.) ก่อนที่รัฐบาลทหารจะมีคำสั่งปิดองค์กรสื่อ มีทหารและตำรวจบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของสำนักข่าว Myanmar Now โดยยึดเอาคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ข้อมูลบางส่วนของห้องข่าว และอุปกรณ์อื่น ๆ
ตัวแทนของ Myanmar Now กล่าวว่า สำนักงานได้อพยพบุคลากรและอุปกรณ์ที่จำเป็นไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 มกราคมที่มีข่าวลือเรื่องการก่อรัฐประหารของกองทัพเมียนมา ทำให้สำนักงานว่างเปล่าในเวลาที่ถูกบุกยึด
ประชาชนเกือบ 1,800 คนถูกควบคุมตัวในระหว่างการปราบปรามของกองทัพรวมถึงนักข่าวหลายสิบคน นักข่าว 6 คนรวมถึง Thein Zaw ช่างภาพของ AP ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายความสงบเรียบร้อย และอาจถูกจำคุกได้ถึง 3 ปี
ด้าน Aye Chan Naing ผู้อำนวยการบริหารสื่อ DVB กล่าวว่า ไม่แปลกใจกับการเพิกถอนใบอนุญาตสื่อ และจะออกอากาศทางทีวีดาวเทียมและออนไลน์ต่อไป “เรากังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ของเรา แต่ในการลุกฮือในปัจจุบันคนทั้งประเทศกลายเป็นนักข่าว และไม่มีทางที่หน่วยงานทหารจะปิดกั้นข้อมูลได้”
นับตั้งแต่มีการรัฐประหาร ผู้ประท้วงได้หลั่งไหลเข้าสู่โซเชียลมีเดียด้วยภาพจากการประท้วงและใช้เฟซบุ๊กไลฟ์เพื่อบันทึกหลักฐานการใช้กำลังปราบปรามผู้ที่มาชุมนุมอย่างสันติ รัฐบาลทหารพยายามปิดกั้นโซเชียลมีเดียเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่หลายคนได้หลีกเลี่ยงข้อจำกัดโดยใช้เครือข่าย VPN
เรียบเรียงจาก The Guardian