ห่วงเมียนมาชุมนุม แพร่เชื้อโควิด-19อีกรอบ ตร.ถกด่วนงัดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯปราม
ชาวเมียนมาประกาศประท้วงจนกว่าจะชนะ
กองทัพเมียนมาสั่งปิดสื่อ 5 สำนัก
ภาพของ “ซิสเตอร์ แอน โรส นู ทอว์” แม่ชีนิกายโรมันคาทอลิกวัย 45 ปีในเมืองมิตจีนาที่กำลังคุกเข่าต่อหน้ากองกำลังรักษาความมั่นคงติดอาวุธของรัฐบาลทหาร วิงวอนให้พวกเขาไว้ชีวิต “เด็ก ๆ” และเอาชีวิตเธอไปแทน กลายเป็นภาพไวรัลที่ถูกส่งต่อกันในโลกออนไลน์ และเธอได้รับการยกย่องในหลายประเทศที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
“ฉันคุกเข่าลง … ขอร้องไม่ให้พวกเขายิงและทรมานเด็ก ๆ แต่ให้ยิงฉันและฆ่าฉันแทน” เธอกล่าว
ภาพดังกล่าวถูกบันทึกไว้เมื่อวันจันทร์ (8 มี.ค.) ที่ผ่านมา เป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนที่ชาวเมียนมาออกมาชุมนุมโดยสงบต่อต้านการรัฐประหารยึดอำนาจจากผู้นำที่ได้รับการเลือกตั้งชอบด้วยกฎหมาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบได้ใช้กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในการสลายผู้ชุมนุมโดยใช้แก๊สน้ำตา ปืนฉีดน้ำ กระสุนยาง และกระสุนจริง
ในวันดังกล่าว ผู้ประท้วงออกมาชุมนุมตามถนนในเมืองมิตจีนาโดยสวมหมวกและโล่ที่ประดิษฐ์กันเอง เมื่อตำรวจเริ่มระดมกำลังสลายการชุมนุม ซิสเตอร์แอน โรส นู ทอว์ และแม่ชีอีก 2 คนก็ได้ออกมาขอร้องให้พวกเขาถอยออกไป
“ตำรวจไล่จับพวกเขาและฉันก็เป็นห่วงเด็ก ๆ” เธอกล่าว
ตอนนั้นเองที่แม่ชีทรุดลงคุกเข่า ครู่ต่อมาขณะที่เธอขอให้ตำรวจอย่ายิง ตำรวจก็เริ่มยิงเข้าไปในกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ข้างหลังเธอ
“เด็ก ๆ ตื่นตระหนกและวิ่งไป … ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากสวดอ้อนวอนขอให้พระเจ้าช่วยเหลือเด็ก ๆ” เธอกล่าว
จากนั้นเธอเห็นชายคนหนึ่งถูกยิงที่ศีรษะแล้วเสียชีวิตต่อหน้าเธอ ตามมาด้วยแก๊สน้ำตา “ฉันรู้สึกเหมือนโลกกำลังพังทลาย ... ฉันเสียใจมากที่มันเกิดขึ้นในขณะที่ฉันขอร้องพวกเขา”
ทีมกู้ภัยในพื้นที่ยืนยันกับสื่อ AFP ว่า มีชาย 2 คนถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างการชุมนุมเมื่อวันจันทร์ แม้ว่าจะยืนยันไม่ได้ว่าเกิดจากการใช้กระสุนจริงหรือกระสุนยางก็ตาม
เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ไม่ใช่การเผชิญหน้าครั้งแรกของซิสเตอร์แอน โรส นู ทอว์ กับกองกำลังรักษาความปลอดภัย เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เธอก็ออกมาคุกเข่าวิงวอนขอความเมตตาเช่นเดียวกัน เธอเดินช้า ๆ เข้าไปหาตำรวจในชุดปราบจลาจลคุกขอให้พวกเขาหยุดใช้ความรุนแรง
“ฉันคิดว่าตัวเองจะตายไปตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์แล้ว” เธอกล่าวถึงวันที่เธอตัดสินใจยืนหยัดต่อสู้กับตำรวจติดอาวุธเป็นครั้งแรก
แม้สิ่งที่เธอทำจะดูอันตราย แต่ซิสเตอร์ แอน โรส นู ทอว์ ยืนยันว่า เธอจะยืนหยัดเพื่อ “เด็ก ๆ” ต่อไป
“ฉันไม่สามารถยืนดูเฉย ๆ โดยไม่ทำอะไรได้เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาในขณะที่ชาวเมียนมากำลังโศกเศร้า” เธอกล่าว
เรียบเรียงจาก The Guardian
ภาพจาก AFP