อาเซียนเรียกร้องเมียนมาหยุดใช้ความรุนแรง
พายุ รัฐประหาร บทบาทอาเซียนต่อวิกฤตการณ์ในเมียนมา
คุณตี๋ ซึ่งเป็นคนไทยที่ทำงานอยู่ที่นั่นบอกกับทีมข่าวของเราว่า เขาได้รับผลกระทบอย่างมากในเรื่องของการทำงาน และการดำเนินชีวิต เพราะเวลาไปทำงานก็ต้องรีบไป รีบกลับเพื่อให้ทันกับช่วงเวลาเคอร์ฟิว ซึ่งพื้นที่ทำงานของเขาอยู่ในเมืองมัณฑะเลย์ มีช่วงเวลาเคอร์ฟิวตั้งแต่ 20.00-04.00 น.
ส่วนเรื่องของเหตุปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นนั้น คุณตี๋ บอกกับเราว่า ก็ค่อนข้างกังวลเพราะไม่สามารถรู้ล่วงหน้าว่ามีการชุมนุมที่จุดไหน หรือว่ามีการปะทะที่จุดไหน และตรงนี้ทำให้เกิดความหวาดระแวงและค่อนข้างกลัว เพราะเวลาเดินทางไปทำงาน หรือเดินทางกลับ มีความกังวลว่าอาจจะไปเจอที่เหตุการณ์ที่สองสองฝ่ายกำลังปะทะกันอยู่หรือเปล่า ซึ่งตรงนี้ก็ต้องคอยเช็กข่าวจากเพื่อนชาวเมียนมาตลอดเพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ตรงนั้น
ส่วนการพูดคุยกันในหมู่คนไทย คุณตี๋ บอกกับเราว่า ตอนนี้ก็มีคนไทยจำนวนหนึ่งมองว่าสถานการณ์จะบานปลาย มีความรุนแรงมากขึ้น และได้แสดงความกังวลกันว่า พวกเขาจะสามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้หรือไม่ ณ ตอนนี้เท่าที่ทราบคือการเดินทางกลับไทยมีทั้งทางอากาศและทางบก และเส้นทางที่เลือกกลับส่วนใหญ่คือ ทางอากาศ แต่ก็ยังมีความกังวลอีกว่า หากคนต้องการกลับกันเยอะและเที่ยวบินเต็ม จะสามารถกลับทางบกได้หรือไม่ ซึ่งเท่าที่เขาเห็นตอนนี้ก็มีคนไทยทำงานในบริษัทอื่นเดินทางกลับทางบกกันได้อยู่