"ตั้งแต่วันอาทิตย์เป็นต้นไปชาวอิสราเอลจะไม่ต้องสวม หน้ากากอนามัย อีกต่อไป" ยูลิ เอเดลสไตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประกาศแก่ประชาชนชาวอิสราเอล เมื่อวันอาทิตย์ (18 เม.ย.) ที่ผ่านมา นับเป็นประเทศแรกในโลกเลยกว่าได้ที่มีนโยบายดังกล่าวออกมา ท่ามกลางสถาการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่กลับมาวิกฤตอีกครั้ง
จนท.ทางการแพทย์มาเลย์ ติดโควิด-19 แม้ฉีดวัคซีนครบ
สหราชอาณาจักรพบโควิด-19 กลายพันธุ์ 2 ตำแหน่งจากอินเดีย
นโยบาย "ยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย" จะเป็นไปเฉพาะในพื้นที่ที่อยู่ภายนอกอาคาร พื้นที่เปิดโล่ง แต่หากอยู่ในอาคารยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันไวรัสโควิด-19
สาเหตุอะไรจึงทำให้ "ทางการอิสราเอลออกมาประกาศยกเลิกสวมหน้ากากอนามัย"
เหตุผลสำคัญ คือ สถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกที่ 3 ดีขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังมีนโยบายดังกล่าวออกมา เพราะแผนการฉีด วัคซีนโควิด-19 ประสบความสำเร็จ แต่ยังคงเรียกร้องให้มีการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังพบว่า อัตราผู้ป่วยใหม่รายวัน และผู้ป่วยร้ายแรง ลดลงอย่างรวดเร็ว
อิสราเอลใช้วัคซีนอะไร
วัคซีนโควิด-19 ที่ ทางการอิสราเอล เลือกใช้ คือ วัคซีนของไฟเซอร์ โดยประเทศอิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนให้กับประชาชนมา ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ปี 2563
แผนการฉีดวัคซีนโควิดผ่านโครงการ "Give a Shoulder"
สำหรับ โครงการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของอิสราเอล มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "Give a Shoulder" เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม ปี 2563 ซึ่งถือว่าเดินหน้ารวดเร็วมาก เพียง 3 สัปดาห์แรกมีประชาชนชาวอิสราเอลได้รับโดสแรกถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมดโดยมีหน่วยงานด้านสุขภาพของประเทศ ใช้ฐานข้อมูลของประชากรเป็นตัวหลัก รวมกับข้อมูลของผู้ป่วย ทำให้อิสราเอลประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีน ซึ่งอาจจะเร็วที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้
นอกจากนั้นแล้ว ปัจจัยด้านประชากรก็มีส่วนทำให้วัคซีนกระจายอย่างรวดเร็ว เพราะโดยเฉลี่ยแล้วประชากรของอิสราเอลมีอายุน้อย และมีเพียง 12 เปอร์เซ็นต์ของประชากรที่มีอายุมากกว่า 65 ปี รวมถึงขนาดประเทศที่เล็ก จำนวนประชากรทั้งหมด (ข้อมูลปี 2562) อยู่ที่ราว 9 ล้านราย
ในช่วงแรกการฉีดวัคซีนมุ่งเน้นไปที่ผู้สูงอายุ (มากกว่า 60 ปี) และกลุ่มผู้ป่วยอื่น ๆ ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงหากได้รับเชื้อโควิด-19 รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ และหลังจากนั้น 8 สัปดาห์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเกือบ 85% ในโรงพยาบาลเมืองเยรูซาเล็ม (Hadassah Hebrew University Medical Center) ได้รับการฉีดวัคซีน และในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563 เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรี เป็นคนแรกในประเทศที่ได้รับวัคซีนก่อนการฉีดให้ประชาชนเริ่มต้นขึ้น
ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ชาวอิสราเอลที่อายุเกิน 60 ปีอย่างน้อย 90% ได้รับวัคซีนไฟเซอร์โดยแรก การติดเชื้อในประเทศลดลง 41% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ปลายเดือนกุมภาพันธ์ชาวอิสราเอล อย่างน้อย 4.8 ล้านคนได้รับวัคซีน 1 โดส
แจก “บัตรเขียว” ยืนยัน ว่าฉีดวัคซีนแล้ว
หลังจากที่ ประชาชนชาวอิสราเอลได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว จะได้รับ “บัตรสีเขียว” ไว้สำหรับแสดงเป็นหลักฐานก่อนเข้ารับการบริการในสถานที่ต่างๆ เช่น โรงยิม โรงแรม และ โรงละคร โดยบัตรนี้จะหมดอายุหลังฉีดวัคซีนแล้ว 6 เดือน
สถานการณ์การฉีดวัคซีนในปัจจุบัน
ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล ระบุว่า ประชากรชาวอิสราเอล 5,338,967 ราย ได้รับวัคซีนแล้ว 1 โดส และอีก 4,961,238 ได้รับครบแล้ว 2 โดส ขณะที่จำนวนประชากรทั้งหมด (ข้อมูลปี 2562) อยู่ที่ราว 9 ล้านราย นั่นหมายความว่าประชากรเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ของอิสราเอลได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แล้ว
สถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน
จากข้อมูลล่าสุดของ กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอล เปิดเผยเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี (15 เมษายน) พบว่า มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 196 ราย ในวันก่อนหน้า และอีก 91 ราย ในวันถัดมา ทำให้จำนวนผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 836,706 ราย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6,314 คน
ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่กำลังอยู่ระหว่างการรักษา 2,945 ราย โคม่า 209 ราย และอีก 126 ราย ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจ และจากการตรวจหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 ให้กับประชาชน 55,470 ครั้ง เมื่อวันพุธ (14 เมษายน) พบว่ามีประชากรเพียง 0.4% ที่มีผลออกมาเป็น "บวก"
อิสราเอล ประดิษฐ์หน้ากากอนามัย แบบไม่ต้องถอดขณะกินอาหาร
วัคซีนโควิด-19 เริ่มเห็นผล อิสราเอลอัตราผู้ป่วยสูงอายุลดลง
"อิสราเอล"มีอัตราได้รับวัคซีนโควิด-19 มากที่สุดในโลก
เรียบเรียงจาก : timesofisrael
รูป AFP