กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทยสถาบันวัคซีนแห่งชาติ จัดบรรยายสรุปเรื่องการกระจายวัคซีนในประเทศไทย ผ่านทางออนไลน์ด้วยระบบ Zoom โดย หนึ่งในผู้เข้าร่วมบรรยาย คือ ดร.ซุมยา สวามินาธาน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า วัคซีนโควิด 19 แต่ละตัว ไม่สามารถนำตัวเลขประสิทธิภาพมาเปรียบเทียบได้ เนื่องจากระเบียบวิธีการวิจัยต่างกัน
คิกออฟฉีดวัคซีน 7 มิ.ย.สัปดาห์นี้กระจายวัคซีนโควิด 2 ล้านโดสทุกจังหวัด
ไฟเซอร์ ยัน ไม่เคยตั้งเอกชนเป็นตัวแทนนำวัคซีนเข้าไทย
เนื่องจากสถานการณ์การระบาดและสายพันธุ์ที่ระบาดในแต่ละประเทศต่างกัน สิ่งสำคัญคือ ต้องดูเรื่องการป้องกันโรครุนแรงและเสียชีวิต ซึ่งวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวคป้องกันอาการรุนแรงและเสียชีวิตได้
และการฉีดวัคซีน 2 เข็มควรเป็นวัคซีนตัวเดียวกัน โดยขณะนี้กำลังศึกษาประสิทธิผลของการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มว่าป้องกันยาวนานแค่ไหน ขณะนี้มีข้อมูลแค่ช่วง 6 เดือน เนื่องจากยังต้องใช้เวลาในการศึกษา
สำหรับคนที่ติดโควิดมาแล้วก็ยังต้องฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แต่หากวัคซีนในประเทศไม่เพียงพอ คนกลุ่มนี้รอฉีดได้ประมาณ 6 เดือน
ด้านนายแพทย์แดเนียล เคอร์เทสซ์ ผู้แทนองค์การอนามัยโลกประจำประเทศไทย กล่าวว่า การฉีดวัคซีนจำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายนของประเทศไทยเป็นเรื่องที่ดีมาก
ซึ่งวัคซีนทั้งของแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวคมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง ทั่วโลกมีการใช้แล้วช่วยป้องกันการเสียชีวิตได้ จึงขอให้ทุกคนไปรับการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและ 7 โรคเรื้อรังที่เป็นกลุ่มเสี่ยงอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูง
นอกจากนี้ สื่อมวลชนมีความสำคัญช่วยในการช่วยควบคุมโรคและส่งเสริมให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน ด้วยการให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชนให้เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ประเมินความเสี่ยงตัวเองได้ว่าอยู่กลุ่มไหน ควรทำอะไรอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่วัคซีนที่ป้องกันการชีวิตได้ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องจะป้องกันการเสียชีวิตได้ด้วย และย้ำว่าแม้ฉีดวัคซีนแล้วการ์ดอย่าตกยังต้องใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่างเหมือนเดิม