สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ให้คำมั่นว่าจะ “ปรับรายได้ที่มากเกินไปของคนรวยในประเทศ” เพื่อเตือนชนชั้นสูงของประเทศว่า รัฐมีแผนจะกระจายความมั่งคั่ง เพื่อจัดการกับความไม่เท่าเทียมกันที่เกิดขึ้นในสังคม
โดยสื่อของรัฐรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง บอกกับเจ้าหน้าที่ในการประชุมคณะกรรมการการเงินและเศรษฐกิจกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่า รัฐบาลควร “ควบคุมรายได้ที่สูงเกินไป และสนับสนุนให้กลุ่มและธุรกิจที่มีรายได้สูงคืนกำไรสู่สังคมมากขึ้น”
ผู้นำจีนประกาศ บริจาควัคซีนโควิด-19 ให้ทั่วโลก 2 พันล้านโดสภายในปีนี้
สหรัฐฯ-จีนผลัดกันขิง! ชาติมหาอำนาจแข่งบริจาควัคซีนโควิด-19
โลกเหลื่อมล้ำช่วงโควิด-19 มหาเศรษฐีทั่วโลกรวยขึ้นพอจะซื้อวัคซีนให้คนทั้งโลกได้
คณะกรรมาธิการกล่าวว่า จะดำเนินการตาม “วาระความมั่งคั่งร่วมกัน” ซึ่งได้กลายเป็นจุดสนใจหลักของการกำหนดนโยบายของจีนหลังจากมีรายงานความไม่พอใจภายในคณะกรรมการกลางของพรรค เกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการที่ร่ำรวยหน้าใหม่
เป้าหมายของนโยบายนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการผลักดันอย่างกว้างขวางของรัฐบาลปักกิ่ง ในการควบคุมบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศในหลายภาคอุตสาหกรรม ตั้งแต่เทคโนโลยีไปจนถึงการศึกษา
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าบริษัทเกมและโซเชียลมีเดีย Tencent หนึ่งในกลุ่มเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของจีนรายงานผลกำไรไตรมาสสองเพิ่มขึ้น โดยกล่าวว่า จะขยายส่วนงานคืนกำไรให้สังคมมากขึ้น
โพนี หม่า ผู้บริหารระดับสูงของ Tencent กล่าวว่า บริษัทอยู่ในธุรกิจเพื่อช่วยเหลือสังคมในวงกว้าง “โดยปรับใช้เทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของเราเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง บริการสาธารณะ และองค์กรต่าง ๆ”
ตั้งแต่เดือน พ.ย. ปีที่แล้ว หน่วยงานกำกับดูแลพยายามขัดขวางไม่ให้บริษัทเทคโนโลยี Ant ซึ่งถือหุ้น 33% โดย Alibaba ได้ทำธุรกิจในเซี่ยงไฮ้และฮ่องกง ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่หวังจะยึดตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทของ แจ็ก หม่า หนึ่งในผู้ที่รวยที่สุดในโลก มีรายงานว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามที่จะควบคุมหัวหน้าบริษัทที่เป็นมหาเศรษฐีเกือบทุกสัปดาห์
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ร่วงลงนับตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือน ก.พ. หลังจากมีการใช้กฎระเบียบและบทลงโทษในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ถูกบังคับให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
นั่นส่งผลให้ผู้ประกอบการที่ร่ำรวยที่สุดในจีนเริ่มประสบภาวะความมั่งคั่งหดตัวลงแล้ว สื่อ Financial Times วิเคราะห์ว่า มูลค่าการถือหุ้นของมหาเศรษฐีจีน 20 คนในแวดวงเทคโนโลยีและเทคโนโลยีชีวภาพ โดยรวมลดลง 16% นับตั้งแต่สิ้นเดือน มิ.ย.
ในขณะที่ภาคเอกชนและความมั่งคั่งของประเทศภาพรวมพุ่งสูงขึ้น ในปี 2019 จำนวนมหาเศรษฐีชาวจีนสามารถแซงหน้าชาวอเมริกันได้เป็นครั้งแรก ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน คนชนบทและคนเมืองในจีนกลับแย่ลง ซึ่งเป็นปัญหาที่ผู้นำจีนกล่าวว่า ต้องการแก้ไข
เรียบเรียงจาก CNN / The Guardian
ภาพจาก AFP
