ภาพจากกล้องวงจรปิดในสวนสาธารณะกลางเมือง “คาร์คิฟ” (Kharkiv) เมืองใหญ่อันดับสองของยูเครนจับภาพการระเบิดและประกายไฟจำนวนมากตามจุดต่างๆ ที่เกิดจากขีปนาวุธของกองทัพรัสเซีย ซึ่งโจมตีสถานที่แห่งนี้ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (28 ก.ค) แม้จะไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่แรงระเบิดทำให้โกดังเก็บของได้รับความเสียหาย และก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง
แมนยูเผยเบอร์เสื้อ “เอริคเซ่น-มาร์ติเนซ”
หมอระวี ยัน ข่าวโอนเงินมั่ว ชี้ของจริงจ่ายสด
นอกจากนี้ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คีฟยังระบุด้วยว่า รัสเซียได้ยิงถล่มหลายพื้นที่ในชั่วข้ามคืน และมีตำรวจหนึ่งนายเสียชีวิตขณะที่รัสเซียยิงปืนใหญ่โจมตีโรงไฟฟ้าในภูมิภาคดังกล่าว ทั้งนี้กองกำลังรัสเซียได้โจมตีเมืองคาร์คิฟมานานหลายสัปดาห์แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ยูเครน อ้างว่า เป้าหมายการโจมตีของรัสเซียคืออะพาร์ตเมนต์ และโรงเรียน ซึ่งมีพลเรือนเสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวด้วย
ส่วนเมืองบักมุท (Bakhmut) ในแคว้นโดเนตสค์ ทางตะวันออกของยูเครน เป็นอีกหนึ่งสมรภูมิรบที่สำคัญพบบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายอย่างหนัก และเกิดไฟไหม้ หลังรัสเซียใช้ปืนใหญ่โจมตีพื้นที่ดังกล่าวจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 5 คน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยยูเครนกำลังเร่งดับไฟ และค้นหาผู้รอดชีวิตเพิ่มเติม ซึ่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องขุดตักซากปรักหักพังเพื่อเคลียร์ทางดึงร่างของผู้ชายคนหนึ่งออกมาจากโรงแรมในเมืองดังกล่าว ด้านอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เปิดเผยว่า กองทัพรัสเซีย ได้ทำลายคลังกระสุนของยูเครน 6 แห่งในแคว้นโดเนตสค์และภูมิภาคมิโคลาอิฟ นอกจากนี้ยังรายงานด้วยว่า หนึ่งในเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียได้ทำลายแท่นปล่อยระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศ С-300 ของยูเครนใกล้กับเมืองกรามาตอสก์
"กองกำลังติดอาวุธของสหพันธรัฐรัสเซียยังคงปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน ศัตรูกำลังเผชิญกับความสูญเสียที่สำคัญ คลังเก็บอาวุธหกแห่งในพื้นที่ของเมืองซิเวอร์สค์ พาราสกอฟกา โกสเตนนิฟกา ในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ถูกทำลายแล้วนะครับ รวมถึงเตอร์นิฟกา และ ซอฟเนวีในภูมิภาคมิโคลาอิฟด้วย นอกจากนี้ใกล้เมืองกรามาตอสก์ เครื่องบินรบของรัสเซีย Su-35C ได้เปิดฉากทำลายแท่นปล่อยจรวด С-300 ของยูเครนด้วยครับ"
ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่ากองทัพรัสเซียได้เปิดฉากยิงขีปนาวุธอย่างน้อย 6 ลูกโจมตีพื้นที่ใกล้กับชานเมืองกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์ที่มีการโจมตีพื้นที่ดังกล่าว จากเหตุการณ์นี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน ในจำนวนนี้มีพลเรือน 5 คน และมีรายงานว่ารัสเซียได้โจมตีเมืองเชอร์นิกอฟ ทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ รวมถึงเมืองอื่นๆในภูมิภาคทางตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ของยูเครนด้วย
ส่วนในภูมิภาคเคอร์ซอน ซึ่งเป็นสมรภูมิที่กำลังดุเดือดอีกหนึ่งแห่งหนึ่งที่กองกำลังยูเครนพยายามรุกคืบ ยึดเอาดินแดนคืนจากกองทัพรัสเซีย หลังจากทหารยูเครนใช้ระบบจรวดหลายลำกล้องพิสัยไกล (HIMARS) ของสหรัฐฯถล่มสะพานที่สำคัญแห่งหนึ่งซึ่งทอดข้ามแม่น้ำดนิโปร
เมื่อวานนี้รัฐบาลเคียฟอ้างว่า เครื่องบินรบของยูเครนได้เข้าโจมตีที่มั่น 5 แห่งของรัสเซียรอบเมืองเคอร์ซอนและอีกเมืองหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง
ส่วนกระทรวงกลาโหมอังกฤษ อ้างว่า เวลานี้กองกำลังยูเครนสามารถตั้งที่มั่นในดินแดนยึดครองของรัสเซียทางใต้ของแม่น้ำอินกูเลตส์ และใช้ระบบจรวดหลายลำกล้องพิสัยไกล (HIMARS) ทำลายสะพานข้ามแม่น้ำดนิโปรอย่างน้อย 3 แห่ง ส่งผลให้เวลานี้ดูเหมือนว่ากองทัพรัสเซียที่อยู่บนฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปรตกอยู่ในความเสี่ยง และเมืองเคอร์ซอนได้ถูกตัดขาดจากดินแดนอื่นๆ ที่รัสเซียยึดครองโดยสิ้นเชิงแล้ว
ขณะที่ กองทัพรัสเซียก็พยายามตอบโต้กลับ โดยกระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า เครื่องบินรัสเซียได้โจมตีกองพลทหารราบยูเครนทางของตอนเหนือของภูมิภาคเคอร์ซอน และสังหารทหารยูเครนไปมากกว่า 130 นายในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ไม่กี่วันที่ผ่านมารัสเซียได้ออกมา ยืนยันว่ากองทัพรัสเซียสามารถโจมตีทำลายระบบจรวด HIMARS ของสหรัฐฯในภูมิภาคดนีโปรได้แล้วมากกว่า 100 เครื่อง รวมถึงยิงสกัดจรวด HIMARS และขีปนาวุธอื่นรวม 10 ลูกในสองเมืองของภูมิภาคเคอร์ซอน
ขณะที่ รองผู้บัญชาการคณะบริหารทหารและพลเรือนที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซียให้ดูแลแคว้นเคอร์ซอนยังปฏิเสธการประเมินสถานการณ์ของชาติตะวันตกและยูเครน โดยระบุเพียงแค่ว่า คำแถลงของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีท ที่ว่าจะปลดปล่อยเคอร์ซอนภายใน 3-6 สัปดาห์เป็นเรื่องโกหก
"Meta" บริษัทแม่เฟซบุ๊ก-ไอจี เผยยอดขายโฆษณาหดเป็นครั้งแรก
ชายหัวร้อนทุบรถผู้เสียหาย หน้า สภ.ชัยพฤกษ์ ล่าสุดยกกระเช้าขอโทษตำรวจ
