ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เดินทางมาถึงยังท่าอากาศยานนานาชาติมานาส ในกรุงบิชเกก เมืองหลวงของคีร์กีซสถานเมื่อในช่วงสายที่ผ่านมา
โดยมี อากิลเบ็ค จาปารอฟ ประธานคณะรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบประธานาธิบดี มารอให้การต้อนรับท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
ภารกิจของการเยือนคีร์กีซสถานของผู้นำรัสเซียในครั้งนี้คือ เพื่อเข้าร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียหรือ EEU โดยวาระสำคัญที่สุดของการประชุมคือ เรื่องพลังงาน
เปิดแผนการบุกยูเครน ของ "วลาดิเมียร์ ปูติน"
ปูติน ยันจะเลิกโจมตี เมื่อยูเครนยอมแพ้และรับเงื่อนไข
ยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้นว่า สิ่งที่ประธานาธิบดีปูตินจะทำคือ การผลักดันให้กลุ่ม EEU จัดตั้ง ตลาดก๊าซร่วมในภูมิภาค ( Common Regional Gas Market) และการสร้างสหภาพก๊าซ (Gas Union) ให้สำเร็จให้ได้
สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย (Eurasian Economic Union :EEU) คืออะไร และมีที่มาที่ไป อย่างไรสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย หรือ EEU เป็นกลุ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2014 หรือเมื่อ 8 ปีที่แล้ว มีสมาชิกทั้งหมด 5 ชาติคือ รัสเซีย เบลารุส คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน และอาร์เมเนีย
ในวันก่อตั้งกลุ่ม ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศว่า กรอบความร่วมมือของกลุ่มจะเน้นเรื่องสำคัญที่เป็นจุดแข็งที่สุดของประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม นั่นคือ การเกษตรและพลังงาน
สิ่งที่ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ใฝ่ฝันและพยายามผลักดันมาโดยตลอด คือการยกสถานะของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียหรือ EEU ให้กลายเป็น ผู้เล่นสำคัญ (major player ) ในตลาดพลังงานของโลก
เพราะอะไรปูติน จึงคิดและหวังเช่นนั้นในมุมมองของปูติน 5 ประเทศสมาชิกของสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย หรือ EEU มีศักยภาพที่จะสามารถก้าวขึ้นมาเป็น มหาอำนาจด้านพลังงานของโลกได้ไม่ยาก เพราะสมาชิก EEU มีสัดส่วนการผลิตก๊าซธรรมชาติได้รวมกันคิดเป็นร้อยละ 20.7 หรือราว 1 ใน 5 ของปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ผลิตได้ทั่วทั้งโลก
นอกจากนั้น EEU ยังสามารถผลิตน้ำมันรวมกันได้คิดเป็นร้อยละ 14.6 ของปริมาณน้ำมันที่ผลิตได้ทั่วโลก และยังมีสัดส่วนการผลิตเชื้อเพลิงจากถ่านหินคิดเป็นร้อยละ 5.9 ของปริมาณถ่านหินทั่วโลก
ด้วยเหตุนี้ บรรดานักวิเคราะห์จึงระบุว่า ไม่น่าแปลกใจที่ ปูตินจะตัดสินใจเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอด EEU ที่คีร์กีซสถานด้วยตัวเองในคราวนี้
นี่ถือเป็นเวทีการประชุมสุดยอดระดับนานาชาติรายการแรกที่ปูติน เดินทางเข้าร่วมการประชุม หลังจากที่ก่อนหน้านี้ผู้นำรัสเซียปฏิเสธคำเชิญให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศ G-20 ที่อินโดนีเซียมาแล้ว และยังไม่ยอมเดินทางมาร่วมการประชุมสุดยอดเขตเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ด้วยเช่นกัน
การเข้าร่วมประชุมด้วยตัวเองของปูติน ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า นับจากนี้ รัสเซียจะพยายามผลักดันให้สหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย หรือ EEU กลายเป็นผู้เล่นหลักในเวทีพลังงานของโลกต่อจากนี้ไป
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กลุ่มประเทศ EEU จะมีปริมาณน้ำมันสำรองมหาศาล แต่ก็ไม่ง่ายในการที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดพลังงานโลก
เพราะอะไร? เหตุผลแรกและเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศสมาชิกด้วยกันเอง เช่น ปัญหาข้อพิพาทระหว่างคาซัคสถานกับคีร์กีซสถาน
2 ชาตินี้ขัดแย้งกันหนักในเรื่องกรรมสิทธิ์อ่างเก็บน้ำของแม่น้ำอิสฟารา การแย่งแหล่งน้ำจืดที่สำคัญกับทั้ง 2 ชาตินี้ลุกลามบานปลายอย่างหนักเมื่อปีที่แล้วจนถึงขั้นยิงปืนครกใส่กันและต้องปิดพรมแดน
ความบาดหมางทำให้คีร์กีซสถานถึงกับประกาศก่อนที่การประชุมจะเริ่มว่า ถ้าไม่แก้ปัญหานี้ก่อนก็ร่วมมือเรื่องอื่นๆกันลำบาก
การเข้าร่วมประชุมสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียของประธานาธิบดีปูตินเพื่อผลักดันให้กลุ่มขึ้นมาเป็นผู้เล่นที่สำคัญในตลาดพลังงานโลกเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย ประเทศซึ่งเป็นผู้เล่นสำคัญที่สุดในตลาดน้ำมันโลก
แม้จะยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า ความเคลื่อนไหวของทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน และประธานาธิบดี สี จิ้นผิง มีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ แต่เชื่อว่า นี่อาจเป็นการส่งสัญญาณให้ทั่วโลกได้เห็นว่า ในเวลานี้ ชาติมหาอำนาจทั้งสอง จีน และรัสเซีย กำลังมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับประเด็นเรื่อง “พลังงาน” เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการผลิตน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนการแสวงหาประโยชน์สูงสุด จากทรัพยากรพลังงานเหล่านี้