นี่ทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์สงครามในทุกวัน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากทางยูเครนและชาติตะวันตก เช่น การประกาศส่งอาวุธหนักอย่างรถถังหรือยานยนต์หุ้มเกราะให้แก่ยูเครนของชาติตะวันตก อย่างไรก็ดี วันนี้ทางฝั่งรัสเซียก็มีความเคลื่อนไหวที่สำคัญเกิดขึ้นเช่นกัน
สำนักข่าวอัลจาซีรารายงานว่า เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ได้แต่งตั้งพลเอกวาเลรี เกราซีมอฟ ประธานคณะเสนาธิการทหารรัสเซีย ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการของปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครนคนใหม่
IMF เตือน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยปีนี้
กลุ่มแวกเนอร์อ้างยึดเมือง “โซเลียดาร์” สำเร็จ
โดยพลเอกวาเลรีจะดำรงตำแหน่งแทนพลเอกเซอร์เก ซูโรวิกิน หรือ “นายพลวันสิ้นโลก” ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งนี้เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
ดมิทรี เทรนิน นักวิเคราะห์ของสำนักข่าวอัลจาซีราในรัสเซียระบุว่า การขึ้นมาดำรงตำแหน่งของพลเอกเกราเซมอฟ จะทำให้สถานการณ์ของสงครามในยูเครนรุนแรงมากขึ้น
เนื่องจากพลเอกเกราเซมอฟไม่ใช่แค่ผู้บัญชาการภาคสนามเหมือนผู้บัญชาการคนก่อนๆ แต่เขาเป็นผู้บัญชาการของทุกเหล่าทัพในรัสเซีย และเป็นคนสำคัญที่สนับสนุนให้ผู้นำรัสเซียรุกรานยูเครนอย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากสำนักข่าว CNN มองว่า การแต่งตั้งให้พลเอกเกราซีมอฟ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการของปฏิบัติการพิเศษทางการทหารในยูเครนนั้น ถือเป็นการลดตำแหน่งและเหมือนเป็นการมอบถ้วยยาพิษให้แก่เขา
เนื่องจากถ้าการปฏิบัติการพิเศษทางการทหารไม่มีความคืบหน้า ชะตากรรมของพลเอกเกราซีมอฟ ก็ไม่ต่างจากนายพลคนก่อนๆ
ขณะเดียวกัน สิ่งนี้ก็ยังเป็นการสะท้อนความหวังที่ลมแล้งๆ ของผู้นำรัสเซียในการเอาชนะยูเครนด้วย เพราะประธานาธิบดีปูตินก็ได้ออกมายอมรับเมื่อคืนวานนี้ว่า สถานการณ์ในดินแดนที่รัสเซียผนวกมาค่อนข้างยากลำบาก
ความยากลำบากที่ผู้รัสเซียพูดถึงนั้น อาจหมายถึงการสู้รบในแคว้นโดเนตสก์ โดยเฉพาะที่เมืองโซเลียดาร์และบัคมุต ที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จนสภาพของเมืองเสียหายอย่างหนัก และทหารของทั้งสองฝ่ายเสียชีวิตจำนวนมาก
ล่าสุดวันนี้ 12 ม.ค. แมกซาร์เทคโนโลยี บริษัทผู้ให้บริการภาพถ่ายทางดาวเทียมของสหรัฐฯ ได้เปิดเผยภาพถ่ายมุมสูงของทั้งเมืองโซเลียดาร์และบัคมุตออกมา
ภาพชุดแรกมาจากเมืองโซเลียดาร์ จากภาพจะเห็นได้ว่าพื้นที่ที่เคยเป็นอาคารได้รับความเสียหายจากการโจมตีจนเหลือเพียงแต่ซากที่มองเห็นความเสียหายได้ชัดเจนแม้จะถ่ายจากมุมสูง
ภาพจากเมืองบัคมุต จะเห็นได้ว่าพื้นที่โล่ง ๆ เต็มไปด้วยรอยกระสุนจากการต่อสู้กันด้วยปืนใหญ่ อาคารบ้านเรือนต่างๆ ได้รับความเสียหายและมีควันที่เกิดจากการโจมตีพวยพุ่งออกมาจากอาคารต่าง ๆ
แม้จะมีการต่อสู้กันอย่างหนักในสองเมือง แต่ตอนนี้หลายฝ่ายให้ความสนใจไปยังเมืองโซเลียดาร์ เนื่องจากเป็นทางผ่านสำคัญเพื่อเข้าไปยึดเมืองบัคมุต นอกจากนี้ ทั้งสองฝั่งพยายามทำสงครามข่าวสารและจิตวิทยาว่าสามารถยึดเมืองดังกล่าวได้แล้ว
โดยเมื่อวานนี้ ฝั่งรัสเซียที่นำโดยกลุ่มนักรบแวกเนอร์ได้เผยภาพถ่ายของตนเองขณะอยู่ที่เหมืองเกลือแห่งหนึ่งในเมืองโซเลียดาร์ ก่อนจะระบุว่าสามารถยึดเมืองนี้ได้แล้ว
อย่างไรก็ดี ทางฝั่งยูเครนยืนยันและปล่อยวิดีโอที่เป็นหลักฐานว่าทหารยูเครนยังคงตรึงกำลังในพื้นที่ได้ และการสู้รบยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด
นอกเหนือจากด้านตะวันออกแล้ว เมื่อวานนี้มีความเคลื่อนไหวจากประธานาธิบดีเซเลนสกีออกมาว่ากำลังจับตาดูแนวรบทางตอนเหนือ บริเวณที่ติดกับชายแดนเบลารุสอยู่ โดยเมื่อวานนี้ประธานาธิบดีเซเลนสกีเดินทางไปที่เมืองลวิฟ เมืองทางตะวันตกที่ติดกับชายแดนโปแลนด์ เพื่อร่วมพิธีไว้อาลัยกับทหารที่เสียชีวิต
ขณะเดียวกันก็ระบุว่า ตอนนี้ยูเครนต้องระวังชายแดนด้านประเทศเบลารุส สาเหตุที่ผู้นำยูเครนออกมาพูดเช่นนี้ เป็นเพราะเมื่อช่วงกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้ว รัสเซียได้ประกาศซ้อมรบร่วมกับเบลารุสบริเวณชายแดนส่วนที่ติดกับยูเครน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา รัสเซียกับเบลารุสก็ได้ซ้อมรบร่วมกันบริเวณชายแดนของเบลารุสส่วนที่ติดกับยูเครนอีกครั้ง
นี่ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า รัสเซียอาจบุกเข้ายูเครนจากเส้นทางดังกล่าวเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ทำให้ยูเครนต้องเตรียมพร้อมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น จนเกิดเป็นภาพการซ้อมรบของทหารยูเครนบริเวณพื้นที่ชายแดนเบลารุส
หัวหน้าของหน่วยรบที่รับผิดชอบพื้นที่บริเวณนี้ระบุว่า กองทัพยูเครนกำลังฝึกหน่วยรบไรเฟิลจู่โจมอยู่ โดยเป็นการฝึกเพื่อโจมตีศัตรูที่พยายามจะข้ามพรมแดนเข้ามาและฝึกเพื่อโจมตีขับไล่ให้ศัตรูถอยทัพกลับไป
จากสถานการณ์สงครามที่ดูเหมือนว่าจะไม่ทางยุติในเร็ววัน เนื่องจากฝั่งประธานาธิบดีปูตินก็ไม่ยอมถอยง่ายๆ ทำให้ฝั่งพันธมิตรของยูเครนก็ไม่ทางเลือกอื่นนอกจากต้องยืนหยัดเคียงข้างยูเครนต่อไป
หนึ่งในวิธีการยืนหยัดเคียงข้างยูเครนคึอ การจัดส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ไปให้ยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต่อจากนี้ไปเราอาจจะเห็นการส่งอาวุธที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่งจะมีผลต่อการเปลี่ยนทิศทางสงคราม โดยหนึ่งในนั้นคือ รถถังประสิทธิภาพสูง
เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีเซเลนสกีพบกับประธานาธิบดีโปแลนด์และประธานาธิบดีลิทัวเนียระหว่างอยู่ที่เมืองลวิฟ
ในช่วงการแถลงข่าว ผู้นำโปแลนด์ได้การประกาศความช่วยเหลือทางการทหารครั้งสำคัญแก่ยูเครนคือ การส่งมอบรถถังรุ่นลีโอพาร์ดทู (Leopard 2) จำนวน 14 คันจากบริษัทผู้ผลิตไปให้ยูเครน
นอกจากนี้ ผู้นำโปแลนด์ระบุไว้อย่างน่าสนใจว่า โปแลนด์ต้องการให้การส่งรถถังเป็นความร่วมมือในระดับพันธมิตร หมายความว่า จะไม่ใช่แค่จะเป็นเพียงโปแลนด์ที่จะส่งรถถังให้ แต่จะมีชาติพันธมิตรอีกหลายชาติที่จะทำแบบเดียวกัน
ด้านผู้นำยูเครนนอกจากจะกล่าวขอบคุณผู้นำโปแลนด์แล้ว ยังระบุว่ารถถังลีโอพาร์ดทูจะช่วยให้ยูเครนรบได้ง่ายมากขึ้น
หลังจากที่ผู้นำโปแลนด์ออกมาประกาศเช่นนี้ บรรดานักเคราะห์หลายคนมองว่า ผู้นำของโปแลนด์กำลังส่งสัญญาณความไม่พอใจไปยังชาติประเทศพันธมิตรยุโรปที่มีรถถังดังกล่าว ซึ่งมีถึง 13 ประเทศ
โดยเฉพาะกับเยอรมนีที่เป็นประเทศต้นกำเนิดรถถังดังกล่าว แต่ยังไม่รีบตัดสินใจเรื่องการส่งมอบรถถังลีโอพาร์ด เนื่องจากกังวลว่าการกระทำดังกล่าวจะดึงองค์การนาโตเข้าไปในความขัดแย้งและกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
นี่อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้โปแลนด์ ซึ่งเป็นชาติตะวันตกและประเทศสมาชิกนาโต ตัดสินใจส่งรถถังรุ่นเลพเพิร์ดไปช่วยยูเครนเป็นประเทศแรก
รถถังดังกล่าวมีประสิทธิภาพอย่างไร? “Leopard 2” เป็นรถถังต่อสู้หลักที่ถูกพัฒนาและผลิตโดยบริษัทของเยอรมนีตะวันตกในช่วงทศวรรษ 1970 และถูกนำมาประจำการครั้งแรกในปี 1979 ตัวรถถังสามารถติดอาวุธหลักและอาวุธรองได้
โดยตัวอาวุธหลักจะเป็นปืนรถถังเรียบ รุ่นไรน์เมทาล 120 มม. จำนวนหนึ่งกระบอก สามารถยิงได้ 42 นัด ส่วนอาวุธรองจะเป็นปืนกลจำนวน 2 กระบอกยิงได้ราว 4,750 นัด ซึ่งนี่ทำให้“Leopard 2” กลายเป็นรถถังที่มีประสิทธิภาพรุ่นหนึ่งของโลก