สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวานนี้ (30 ม.ค.) ช่วงเวลาประมาณ 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดเหตุระเบิดที่มัสยิดแห่งหนึ่งในเมืองเปชาวาร์ ซึ่งมัสยิดดังกล่าวตั้งอยู่ในพื้นที่ควบคุมเข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งของเมือง และตั้งอยู่ในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยข่าวกรอง และหน่วยต่อต้านการก่อการร้ายของปากีสถาน
มูฮัมหมัด อิจาซ ข่าน ผู้บัญชาการตำรวจเมืองเปชาวาร์ เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่ผู้คนกำลังทำละหมาดในช่วงบ่าย ซึ่งเวลานั้นมีตำรวจอยู่ในพื้นที่ประมาณ 300-400 นาย
“ดอพเพลแกงเกอร์” สาวก่อเหตุฆ่าคนหน้าเหมือน เพื่อหลอกว่าตัวเองตายแล้ว
จนท.สหรัฐฯ เผย อิสราเอลอยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในอิหร่าน
รัสเซียโจมตีรพ.ในเคอร์ซอน ปธน.เซเลนสกี ร้องขออาวุธเพิ่ม
เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานยืนวันว่า ผู้ก่อเหตุได้ระเบิดตัวเองไปด้วยหรือไม่ และจนถึงตอนนี้ยังไม่มีกลุ่มใดออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่คาดว่า ผู้ก่อเหตุเชื่อมโยงกับกลุ่มตาลีบันในปากีสถาน
อย่างไรก็ตาม ซาร์บาคาฟ โมห์มันด์ ผู้บัญชาการกลุ่มตาลีบันปากีสถาน (TTP) ได้ทวีตข้อความว่า TTP เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิด แต่ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา โมฮัมหมัด คูราซานี โษฆก TTP ก็ออกมาแย้งว่า กลุ่มตาลีบันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยชี้ว่า TTP ไม่มีนโยบายโจมตีมัสยิดและศาสนสถานต่าง ๆ
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 83 คน และบาดเจ็บอีกมากกว่า 150 คน ซึ่งในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บนี้ พบว่าหลายคนสวมเครื่องแบบตำรวจ บางคนมีรอยไหม้ที่ผิวที่เกิดจากแรงระเบิด และกระดูกหัก เนื่องจากโดนเศษอิฐหล่นทับ
มีรายงานด้วยว่า นี่อาจเป็นการใช้ระเบิดพลีชีพ โดยผู้ก่อเหตุนั่งอยู่ในแถวหน้าระหว่างการละหมาด
ส่วนนายกรัฐมนตรีเชบาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ซึ่งลงพื้นที่หลังเกิดเหตุ ระบุว่า ผู้ก่อการร้ายต้องการสร้างความหวาดกลัว โดยมุ่งเป้าโจมตีไปผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องปากีสถาน และผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในครั้งนี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม พร้อมประกาศยืนหยัดต่อสู้กับภัยคุกคามจากการก่อการร้าย
ขณะที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้ออกมาประณามการโจมตีดังกล่าว พร้อมชี้ว่า การโจมตีในสถานที่ที่ผู้คนเอาไว้สักการะ ถือเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจอย่างยิ่ง
ทั้งนี้การโจมตีมัสยิดเมื่อวานนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาสำคัญทางการทูตของปากีสถาน ที่กำลังเผชิญวิกฤตเศรษฐกิจครั้งเลวร้าย ซึ่งตามกำหนดการ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล นาห์ยานของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีกำหนดการเยือนกรุงอิสลามาบัด แม้ว่าการเดินทางจะถูกยกเลิกในนาทีสุดท้าย เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้าย
ขณะที่วันนี้ คณะผู้แทนของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) มีกำหนดการเยือนปากีสถานเช่นเดียวกัน ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปลดล็อกเงินกู้เพื่อช่วยเหลือปากีสถานไม่ให้ผิดนัดชำระหนี้
ภาพจาก AFP
