วันที่ 17 เม.ย. 58 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธาน คสช. ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง แถลงผลงานรัฐบาลรอบ 6 เดือน โดยระบุว่า ได้เข้ามาบริหารประเทศแบบมีเงื่อนไขจากความขัดแย้ง จึงต้องเร่งรัดดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟูและสร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมตั้งกลไกบริหารขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติให้สัมฤทธิ์ผล
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับผลงานภาพรวม 6 เดือนแรก มีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและการป้องกันความรุนแรง การดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 2-4 ของปี 2557 เริ่มดีขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคและนักลงทุนปรับตัวดีขึ้นตามลำดับ และจะวางรากฐานการพัฒนาประเทศ เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลต่อไปในการสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมให้มีเสถียรภาพที่ยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า ส่วนการรักษาความมั่นคงของรัฐและต่างประเทศ มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าว การประมงผิดกฎหมาย การแก้ไขปัญหาความรุนแรงในจังหวัดภาคใต้ การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
"ขณะที่มิติทางสังคม รัฐบาลให้ความสำคัญกับการดูแลผู้สูงอายุ เด็ก สตรี คนพิการและผู้ด้อยโอกาส ให้ได้รับสิทธิที่เท่าเทียม ด้านการศึกษา มีการตั้งคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา เพื่อขับเคลื่อนงานด้านการศึกษาโดยเฉพาะการปรับหลักสูตรการพัฒนาคุณภาพครูและผู้เรียน การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ด้านกระบวนการยุตติธรรม ได้ให้ความเป็นธรรมและการคุ้มครองทางกฎหมายที่เหมาะสม ให้ประชาชนเข้าถึงความยุติธรรม" ประธาน คสช.ระบุ
ด้าน ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า รัฐบาลเร่งรัดทุกเรื่องที่นักลงทุนขอมา ทำให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการประเมินของสภาพัฒน์พบว่าไตรมาส 1 ปีนี้ การลงทุนภาครัฐเพิ่มขึ้น 5% การใช้จ่ายรัฐบาลเพิ่ม 2.5% แต่การส่งออกยังชะลอตัวจากภาวะเศรษฐกิจโลก คาดว่า 3 เดือนแรก การส่งออกน่าจะติดลบที่ 4%
"สำหรับจุดอ่อนทางเศรษฐกิจ เกิดจากพืชเศรษฐกิจโดยเฉพาะข้าวและยางที่ราคาตกต่ำ แต่รัฐบาลมีมาตรการให้เงินช่วยเหลือ 1 ตำบล 1 ล้านบาท ซึ่งจากการประเมินจะมีทั้งหมด 3,051 ตำบล กระจายใน 52 จังหวัด คาดว่าจะทยอยจ่ายเงินได้ในเดือนเมษายน และจ่ายครอบในเดือน พ.ค.นี้" รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ แจง.
