ภาพกล้องวงจรปิด ในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เผยภาพ ของ นาย คิ ชิค บา ตา โบลด์ , นาย เธอร์ มังค์ บู เรน จาร์ กัล , น.ส.อุล ชิ บา ยา บัท เทอร์ เด เน่ 3 ผู้ต้องหาชาวมองโกเลีย ขณะร่วมกันลักทรัพย์สินของชาวต่างชาติ ก่อนหลบหนีกลับประเทศ โดยตำรวจท่องเที่ยว กองกำกับการ 3 และ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ใช้เป็นหลักฐาน ขออนุมัติศาลจังหวัดสมุทรปราการ ออกหมายจับกุม กระทั่ง ทั้ง 3 เดินทางมาไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 18 มี.ค. ทั้งหมดจึงถูกจับกุม
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้ เกิดขึ้นหลังได้รับร้องเรียน จากชาวเยอรมัน และชาวออสเตรเลีย ว่า ถูกขโมยทรัพย์สิน ทั้ง เงินสด บัตรเครดิต ขณะเดินทางเข้าไทย ทั้งนี้การตรวจสอบก็พบพฤติกรรมชัดเจนโดยหลังได้ทรัพย์สิน กลุ่มผู้ต้องหาก็นำบัตรเครดิต ไปซื้อสินค้าราคาแพง
นอกจากนี้ การตรวจสอบกล้องวงจรปิดขยายผลตามเส้นทาง พบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ ก่อเหตุอย่างชำนาญ จึงเชื่อว่าตั้งใจเดินทางเข้าไทย เพื่อก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ทั้งหมดจึงถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกัน ตั้งแต่สองคนขึ้นไป ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน"
ส่วนอีกคดี ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 จับกุม น.ส. ฌานัญญา แดงทอง พร้อมหนังสือเดินทางปลอม ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศฝรั่งเศส น.ส. ฌานัญญา ยอมรับว่า ไปเที่ยวประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่อยู่เกินกำหนด จึงถูกประทับตราห้ามเข้าประเทศในหนังสือเดินทาง เกิดความวิตกว่า จะเดินทางกลับไปอีกไม่ได้ จึงว่าจ้างหญิงสาวคนหนึ่งที่รู้จักกันทางไลน์ ในราคา 11,000 บาท ให้แก้ไข
ผู้บัญชาการ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ยังระบุด้วยว่า สถิติคดีที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดของชาวต่างชาติลดลง หรือหากมี ก็สามารถจับกุมได้ โดยทั้งหมดเกิดจากนโยบาย "สภากาแฟ" ที่ นัดหมาย หารือร่วมกัน ระหว่างหลายหน่วยงานใน ท่าอากาศยานฯ หรือ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เดือนละครั้งเช่นกรณี จับกุมหญิงไทยรายนี้ ก็ได้รับการประสาน จาก สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ว่า พบสิ่งผิดปกติของหนังสือเดินทาง จนนำมาสู่การจับกุม