เริ่มด้วยพรรคเพื่อไทย ที่สามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ไป 16 จังหวัด ประกอบด้วย ลำปาง , อุตรดิตถ์ ,น่าน , เชียงใหม่ ,ลำพูน ,บึงกาฬ , อุดรธานี ,หนองคาย ,สกลนคร ,กาฬสินธุ์ ,หนองบัวลำภู ,อำนาจเจริญ ,ยโสธร ,มหาสารคาม มุกดาหาร และ นครนายก และสามารถกวาดไปได้ถึง 59 เขต
ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ กวาด ส.ส. แบบยกจังหวัดไปได้ 8 จังหวัด ประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน ,พิจิตร , เพชรบูรณ์ , สระแก้ว , สิงห์บุรี, ชัยนาท ,เพชรบุรี และ ภูเก็ต รวม 20 เขตเลือกตั้ง
พรรคภูมิใจไทย ก็สามารถกวาดยกจังหวัดไปถึง 6 จังหวัด ประกอบด้วย บุรีรัมย์ ,ปราจีนบุรี ,อุทัยธานี ,อ่างทอง ,ระนอง , สตูล รวม 17 เขตเลือกตั้ง
ส่วนอดีตพรรคอันดับสอง ที่เคยครองพื้นที่ภาคใต้แบบแทบจะกวาดยกภาค คราวนี้เหลือจังหวัดที่กวาดยกจังหวัดเพียง 3 แห่งเท่านั้นคือ สมุทรสงคราม ,พังงา และ สุราษฎร์ธานี รวม 8 เขตเลือกตั้ง
การกวาดน้อยอาจจะดูน่าแปลก แต่การกวาดได้เพียง 3 จังหวัดสำหรับพรรคการเมืองที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ ส.ส. แบบแบ่งเขตก็กลายเป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย โดยประกอบด้วย แพร่ ,ตราด และจันทบุรี รวม 6 เขตเลือกตั้ง
ที่ไหนจะเป็นของใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ที่นี่ เพราะแม้บรรหาร ศิลปอาชา จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ ชาติไทยพัฒนายังคงกวาด สุพรรณบุรีได้ต่อไป และเป็นเพียงจังหวัดเดียวที่พวกเขาทำได้ รวม 4 เขตเลือกตั้ง