การพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ นำไปสู่การประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และเกิดเป็นคำถามว่าทางเลือกที่พรรคประชาธิปัตย์จะใช้เป็นทางรอดคือแนวทางใด เรื่องนี้อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ เสนอแนะให้รักษาอุดมการณ์ แม้จะต้องเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียว
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองทางเลือกที่พรรคประชาธิปัตย์จะต้องเผชิญหลังจากนี้ เพราะเคยประกาศจุดยืนก่อนการเลือกตั้ง ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี อีกทั้งไม่ทางจับมือกับพรรคเพื่อไทย หากยังยึดโยงอยู่กับนายทักษิณ ชินวัตร รวมถึงความแตกต่างกันของนโยบาย ดังนั้นทางเลือกของประชาธิปัตย์ ต้องยืนหยัดหลักการณ์ไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ร่วมกับเพื่อไทยต่อไป และต้องประคองตัวให้ดี แม้ว่าจะเป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวก็ตาม หากทำเช่นนี้ประชาชนก็จะกลับมาเชื่อถือว่าประชาธิปัตย์เป็นพรรคที่มีหลักการณ์ ไม่เอนเอียงตามสถานการณ์
หากมีการกลับลำหลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ชุดใหม่อาจหันไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ นายไชยันต์บอกว่า อยากให้ตระหนักว่าเสียงที่สนับสนุนให้เข้ามาเป็น ส.ส. เพราะอุดมการณ์ของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง ถ้ากลับลำ อาจได้ใจคนในระยะสั้นเท่านั้น แต่จะเสียคนที่ยึดมั่นอุดมการณ์ในระยะยาว และเห็นว่าคะแนนเสียงขณะนี้ทำให้การจัดตั้งรัฐบาลของทั้งสองฝ่ายทำได้ยากขึ้น
นายศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี นักวิจัยสถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มองว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ต้องการฟื้นคืนกลับมาต้องสร้างตัวเองจากการเป็นฝ่ายค้านก็อาจจะได้เปรียบ มีโอกาสที่สะสมสร้างเครดิตกลับคืนมาในระยะยาว แต่หากจับมือกับพรรคพลังประชารัฐ อาจจะยิ่งตกต่ำลงกว่านี้ เพราะรัฐบาลที่สร้างขึ้นมาในขณะนี้ อาจมีอายุไม่ยาวนาน จึงเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องชิงโอกาสเป็นฝ่ายค้าน เพราะที่มีความโดดเด่น และเป็นฝ่ายปฏิเสธอำนาจเก่า
“อภิสิทธิ์” แถลงลาออก แสดงความรับผิดชอบ
“จาตุรนต์” ชี้ หาก ประชาธิปัตย์ เป็นฝ่ายค้าน เพื่อไทย พร้อมร่วมงานด้วย