สำหรับมาตรการนี้รัฐบาลหวังให้เป็นการพยุงเศรษฐกิจช่วงกลางปีหลังทั้งธนาคารโลก และกระทรวงการคลังหั่นตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจลงมาเหลือเพียง 3.8% ในปีนี้ ซึ่งเม็ดเงินกว่าหมื่นล้านนี้จะถูกจ่ายผ่านผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13,200 ล้านบาทใน 4 กลุ่ม คือ
ผู้พิการ ได้รับเบี้ยคนพิการเพิ่มขึ้นจากเดิม เป็นการบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย ดูแลสุขภาพ การเดินทาง 200 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่ พ.ค.-ก.ย.2562 ผ่านช่องทาง e-Money ภายในวันที่ 15 ของเดือน คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ 1,160,000 คน ใช้งบประมาณ 1,160 ล้านบาท
เกษตรกร ช่วยเหลือค่าปุ๋ยยาฆ่าแมลง และปัจจัยการผลิตอื่นๆที่จำเป็น ในช่วงที่เกษตรกรมีรายได้ลดลง หรือราคาสินค้าเกษตรผันผวน โดยให้เป็นเงิน 1,000 บาทครั้งเดียว ภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ผ่านช่องทาง e-Money คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิประโยชน์ 4,100,000 คน ใช้งบประมาณ 4,100 ล้านบาท
พ่อแม่ กลุ่มนี้หมายถึงการแบ่งเบาภาระเรื่องค่าชุดนักเรียน อุปกรณ์การศึกษาช่วงเปิดเทอม จำนวน 500 บาทครั้งเดียวต่อลูก 1 คน ภายในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ผ่านช่องทาง e-Money คาดว่าจะมีจำนวนบุตรที่ได้รับสิทธิประโยชน์ 2,700,000 คน ใช้งบประมาณ 1,350 ล้านบาท
และสุดท้ายคือ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.6 ล้านคน เพื่อช่วยปัญหาปากท้อง และรักษากำลังซื้อของเศรษฐกิจฐานราก 200-300 บาทต่อคนต่อเดือน ตั้งแต่ พ.ค.-มิ.ย. 2562 รวมถึงเพิ่มเพดานการใช้จ่ายผ่านร้านธงฟ้าอีก 500 บาทต่อคนต่อเดือน ใช้งบประมาณ 6,600 ล้านบาท
ข้อมูล : สำนักงานนโยบายเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง