เมื่อวันที่ (14 พ.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพส์ตภาพรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง พร้อมเล่าเหตุการณ์ว่าผู้เป็นพ่อได้ถูกหญิงวัยกลางคน ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพ อ้างว่าตัวเองถูกขับรถเฉี่ยวได้รับความเสียหายแล้วเรียกเงินจากพ่อ 4,000 บาท
แต่พอพ่อยกมือถือจะถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานว่ามีเหตุรถเฉี่ยวชนกัน หญิงคนขับรถเก๋งกลับแสดงอาการโวยวาย พร้อมเร่งเร้าให้จ่ายเงินอ้างจะรีบไปธุระ พอพ่อบอกไม่มีเงินก็บอกว่ามีเท่าไหร่ก็เอามา พ่อจึงจำใจควักเงินที่มีอยู่ให้ไป 800 บาท จึงได้นำเรื่องราวมาโพส์ตเตือนภัยในสังคมออนไลน์
ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังเหยื่อที่ถูกแก๊งมิจฉาชีพตบทรัพย์เรียกเงิน คือ ร้อยตรี ณัฐกรณ์ ภิรมย์สุข ข้าราชการบำนาญสังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่ง ก็ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อเวลาเย็น ได้ขับรถกระบะมาจากบ้านที่อ.นางรอง คนเดียวเพื่อจะเข้าไปทำธุระในตัวเมืองบุรีรัมย์ แต่พอขับมาถึงบ้านบริเวณบ้านระนามพลวง ต.หนองโสน อ.นางรอง ก็มีรถเก๋งสีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ขับแซงหน้าแล้วลดความเร็ว
พอตัวเองทิ้งระยะห่างพอสมควร ดูจังหวะแล้วก็ขับแซงไป รถเก๋งคันดังกล่าวก็ขับมาจี้ท้าย เป็นแบบนี้ 2-3 รอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จึงเริ่มรู้สึกแปลกๆ แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร กระทั่งมีรถกระบะสีน้ำเงิน ขับมาประกบด้านหลังแต่ไม่ยอมแซงหน้า ทั้งที่รถตนเองก็ขับช้าๆ ความเร็วประมาณ 50 – 60 เท่านั้น แต่ก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จนกระทั่ง รถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับไปดักข้างหน้าแล้วลงมาโบกให้ตนเองจอดรถ แล้วมาขู่เอาทรัพย์สิน พร้อมบอกว่าตนไปเฉี่ยวรถของเขา จึงเชื่อว่าน่าจะเป็นแก๊งมิจฉาชีพที่เคยก่อเหตุตบทรัพย์ในหลายพื้นที่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้แจ้งความตำรวจ เพราะเห็นว่าเสียเงินไปไม่มาก แต่ก็อยากจะเตือนภัยผู้ที่ขับขี่รถไปไหนมาไหนคนเดียว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือผู้หญิง หากมีเหตุรถเฉี่ยวชนกันจริงก็ควรจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มา