“ไอติม” ลาออก ประชาธิปัตย์แล้ว ลั่นขอโทษ “สิ่งที่ท่านได้ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเลือก”


โดย PPTV Online

เผยแพร่




“ไอติม” ประกาศลาออกจาก ปชป. หลังพรรคมีมติร่วมรัฐบาลพลังประชารัฐ ขอโทษประชาชน ที่ “สิ่งที่ท่านได้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเลือก”

ผู้สื่อข่าวรยงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 08.20 น.  นายพริษฐ์ วัชรสินธุ  หรือ “ไอติม” สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์กลุ่ม New Dem และหลานชายนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ของลาออกจากความเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ภายหลังจากที่พรรคมีมติร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ

โดยเขาระบุว่า

“ณ วันนี้ เป็นที่ชัดเจนแล้ว ว่าพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐเพื่อสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็น นายกรัฐมนตรี

ผมเชื่อว่ามีทั้งคนที่เสียใจและดีใจกับผลลัพธ์นี้ เพราะการตัดสินใจของพรรค ส่งผลกระทบต่อทิศทางของประเทศ

ฝ่ายค้านอิสระ !! “ไอติม” ลั่น กอบกู้ “ประชาธิปัตย์”

“ไอติม” สวน “ม.จ.จุลเจิม” คิดได้แค่นี้

ในฐานะอดีตผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ผมขอแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่ผมได้พูดไว้กับประชาชนตลอดชีวิตทางการเมืองของผมที่ผ่านมา

สำหรับใครก็ตามใน 3.9 ล้านเสียง ที่เลือกเราเพราะหวังว่าเราจะรักษาคำพูดของหัวหน้าพรรคในช่วงเลือกตั้ง

สำหรับใครก็ตามใน 3.9 ล้านเสียง ที่เลือกเราเพราะหวังว่าเราจะเป็นหนึ่งกำลังสำคัญในการหยุดการสืบทอดอำนาจ

สำหรับใครก็ตามใน 3.9 ล้านเสียง ที่เลือกเราเพราะหวังว่าเราจะต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ

สำหรับคุณลุงในชุมชนลาดพร้าว 101, คุณอาในหมู่บ้านสวนริมคลอง และอีกหลายๆคนในเขตบางกะปิ-วังทองหลาง ที่บอกผมว่า จะตัดสินใจเลือกผมและพรรค ถ้าผมสัญญาว่าเราจะเอาจริงตามที่ประกาศไว้ว่าจะไม่สนับสนุน พล.อ. ประยุทธ์

“จุรินทร์” แถลง นำ ปชป.ร่วมรัฐบาล พปชร. - ปัดละทิ้งอุดมการณ์

ผมไม่มีคำอื่นที่จะบอกพวกท่านได้นอกจากคำว่า “ขอโทษ”

 

ผม “ขอโทษ” ที่สิ่งที่ท่านได้ ไม่ใช่สิ่งที่ท่านเลือก

 

ในฐานะสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ผมพยายามอย่างเต็มที่ในการนำเสนอทางเลือกให้กับพรรค ที่ผมเชื่อว่าจะทำให้เราได้รักษาคำพูดที่เราให้ไว้กับประชาชน รักษาอุดมการณ์ดั้งเดิมของพรรคซึ่งยังคงเหลือร่องรอยอยู่ในชื่อของพรรค และ สำคัญที่สุด รักษาผลประโยชน์ของประชาชน ด้วยการนำพาประเทศเดินไปข้างหน้าบนถนนสายประชาธิปไตย ที่มองเห็นคุณค่าที่เท่าเทียมกันของมนุษย์ ให้ความสำคัญกับการตรวจสอบถ่วงดุลและการบริหารประเทศที่โปร่งใส และ มีโอกาสสูงสุดในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยส่วนใหญ่ให้ดีกว่าที่ผ่านมา

 

ผมพูดมาเสมอว่าเราต้องพยายามอย่าผูกขาดคำว่า “ประชาธิปไตย” เพราะทุกคะแนนเสียง ไม่ว่าจะลงให้พรรคไหน ล้วนมีความสำคัญเท่ากันหมดภายใต้ระบอบประชาธิปไตย

 

ถนนสายประชาธิปไตยควรมีหลายสายให้ประชาชนได้เลือก ที่อาจแตกต่างกันด้วยนโยบาย ด้วยวิธีการทำงาน หรือด้วยบุคลากร

 

การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยไม่ได้หมายความว่า เราต้องเห็นด้วยกับถนนสายประชาธิปไตยทุกสาย แต่สำหรับผม การยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยคือการที่ถนนทุกสาย ไม่ว่าจะต่างกันแค่ไหน ต้องพร้อมแข่งขันภายใต้กรอบกติกาเดียวกันที่เป็นกลางและเป็นธรรม

 

ในฐานะนักประชาธิปไตย ผมไม่สามารถเห็นด้วยได้กับการสนับสนุนผู้นำหรือพรรคการเมืองที่ (ถ้ามองโลกในแง่ดีที่สุด) ได้รับอานิสงค์โดยบังเอิญ หรือ (ถ้ามองโลกในแง่ร้ายที่สุด) มีส่วนเกี่ยวข้องโดยเจตนา กับ กติกาและพฤติกรรมที่สังคมมองว่าไม่เป็นกลาง ไม่ว่าจะเป็น การจัดประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญที่ไม่เปิดให้มีการหาเสียงทั้งสองด้านได้อย่างเสรี, การเขียนกติกาที่ไม่ป้องกันให้กรรมการผันตัวมาเป็นผู้เล่น, การไม่ปฏิเสธว่าพร้อมจะใช้อำนาจของวุฒิสภาที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมาขัดความต้องการของประชาชน, การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่ไม่โปร่งใสและดูเหมือนจะเอื้อเฟื้อพวกพ้อง หรือ การตีความสูตรคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อหลังเลือกตั้งเสร็จที่พลิกผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้เปรียบ

 

ผมพูดมาเสมอว่า ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน ผมอยากเห็นพรรคมีความชัดเจนและเดินไปข้างหน้าอย่างมีเอกภาพพร้อมกันกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกคน

 

แต่ในวันที่อุดมการณ์ของผมและอุดมการณ์ของพรรคแตกต่างกัน เพื่อรักษาหลักการว่าพรรคการเมืองควรเป็นพื้นที่ที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ตรงกัน เพื่อลดความเสียหายที่คำพูดในอนาคตของผมอาจจะทำให้สังคมมองว่าพรรคไม่ชัดเจน และเพื่อให้พรรคถูกขับเคลื่อนโดยบุคลากรเก่งๆหลายคนที่พร้อมเป็นตัวแทนของชุดความคิดพรรคในวันนี้ ผมขอเคารพการตัดสินใจของพรรค ด้วยการยุติทุกบทบาททางการเมืองในนามพรรค และลาออกจากสมาชิกพรรค

 

ผมขอขอบคุณพรรคประชาธิปัตย์ที่ให้โอกาสผมมาโดยตลอด ตั้งแต่วันที่พรรคเป็นครูให้ผมในฐานะเด็กฝึกงานที่ไม่มีอะไรมากกว่าแค่ความสนใจในงานการเมือง จนมาถึงวันที่พรรคให้ผมเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวในฐานะผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค พรรคมีหลายอย่างที่ผมยังนับถือ ไม่ว่าจะเป็นการพร้อมรับฟังความเห็นที่หลากหลาย หรือ ความสามารถของหลายๆคนในพรรค ในเมื่อพรรคตัดสินใจอย่างนี้แล้ว ผมได้แต่เพียงหวังว่า ส.ส. ของพรรค จะสามารถผลักดันนโยบายของพรรคให้เป็นจริงได้ตามที่ท่านคาดหวังไว้ ทุกมิตรภาพและความสันพันธ์ที่ดีที่ผมได้รับจากแทบทุกคนในพรรค ผมจะไม่มีวันลืม

 

การตัดสินใจออกจากพรรค เป็นการตัดสินใจที่ผมใช้เวลาไตร่ตรองมานาน และเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตผม ผมเดินออกจากพรรค ไม่ใช่เพราะผมคิดว่าความคิดใครถูกหรือผิด แต่เป็นเพราะเราคิดต่างกัน ว่าอะไรเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศชาติและประชาชน

 

อนาคตผมจะเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญในวันนี้ แต่ผมยังขอยืนยันว่าความมุ่งมั่นที่อยากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นและซื่อตรงต่อความต้องการของประชาชน เป็นความตั้งใจที่จะไม่มีวันจางหาย

 

ด้วยความเคารพ

 

พริษฐ์ วัชรสินธุ

PR - ตารางคะแนน-2_B PR - ตารางคะแนน-2_B
TOP ประเด็นร้อน
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ