การจำหน่าย “บัตร” ที่เรียกกันว่า “บัตรพลังงาน” ในพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น โดยอ้างว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ จนมีชาวบ้านพกติดตัว หรือนำไปจุ่มน้ำดื่ม จนกลายเป็นข้อสงสัยว่าสามารถรักษาโรคได้จริงหรือไม่ ล่าสุด อาจารย์ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบเอกสารที่ระบุว่า บัตรพลังงาน เคยถูกตรวจสอบพบการปนเปื้อสารเคมีอันตรายจำนวนมากรวมทั้งสารกัมมันตรังสีด้วย
“สมาร์ทการ์ดรักษาโรค” ระบาดขอนแก่น อ้างแค่แตะตัว จุ่มน้ำดื่มก็หาย
รองศาสตราจารย์วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ภาควิชาเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งไปพบกับเจ้าของบริษัทที่จำหน่าย “บัตรพลังงาน” ในรายการโหนกระแส ชี้แจงผ่าน เฟซบุ๊ก ไลฟ์ ส่วนตัว โดยระบุว่าต้องการส่งข้อความเตือนภัยอย่างเร่งด่วนไปยังผู้ที่ใช้บัตรพลังงาน โดยเฉพาะคนที่เอาไปจุ่มน้ำแล้วดื่ม หรือคนที่พกติดตามร่างกาย เพราะในระหว่างที่ออกรายการ ได้พบเจ้าของบริษัทนี้ ที่อ้างว่าเป็นบริษัทขายตรงและแจกบัตรพลังงานเป็นของแถม โดยสอบถามว่า มีเอกสารรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือไม่ ทำให้ทางบริษัท ส่งเอกสารจำนวนมากมาให้ตรวจสอบ และเมื่ออ่านไปก็พบเอกสารทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เป็นผลการตรวจสอบบัตร ที่ระบุว่าเป็น “SAVER CARD” เมื่อ 3 สิงหาคม 2559 ของกิจการที่ชื่อ บริษัท แอลเอ จีเนียส (ประเทศไทย) จำกัด จากสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ ของประเทศไทย และการตรวจสอบของสำนักงานวิทยาศาสตร์ มาเลเซีย มีผลที่น่าตกใจว่า ภายในบัตรเต็มไปด้วยสารโลหะหนัก เช่น ปรอท ตะกั่ว แคดเมียม ไทเทเนียม ซิลิคอน กำมะถัน ดีบุก และที่น่าตกใจกว่านั้น คือในเอกสารระบุถึงสารกัมมันตรังสี คือ ยูเรเนี่ยม และ ทอเรียม และเมื่อนำกรรไกรมาตัดบัตรออกพบว่ามีสารเคมีที่เป็นผงสีขาว อัดเป็นแผ่นแข็งๆอยู่ภายในบัตรด้วย จึงต้องรีบเตือนประชาชน เพราะหากข้อมูลในเอกสารเป็นจริง จะส่งผลกับสุขภาพในระยะยาว
อ.อ๊อด มาแล้ว! เตรียมผ่าพิสูจน์ “บัตรพลังงาน” ค่ำนี้
ก่อนที่จะพบเอกสารว่าในบัตรพลังงาน มีโลหะหนักและสารกัมมันตรังสี รองศาสตราจารย์วีรชัย ได้ใช้เครื่องมัลติมิเตอร์ ตรวจวัดหาค่าพลังงานไฟฟ้าในบัตร แต่ก็พบว่าไม่แสดงผลใดๆ แต่ตั้งข้อสังเกตว่า หากมีสารกัมมันตรังสีจริง ก็มีความเป็นไปได้ว่า เมื่อนำไปวางในที่ต่างๆอาจส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง แต่ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย พร้อมระบุว่า เมื่อพบข้อมูลเช่นนี้ หน่วยงานภาครัฐที่มีเครื่องมือตรวจหาสารกัมมันตรังสี ต้องรีบนำบัตรมาตรวจสอบซ้ำทันที เพราะเครื่องมือของเอกชนและมหาวิทยาลัย ไม่มีศักยภาพเพียงพอ
หมอแล็บฯ ชี้ “บัตรพลังงาน” เคยระบาดหลอกคนเมื่อ 10 ปีก่อน
สสจ.สงขลา เผยบริษัท "บัตรพลังงาน" เคยถูกจับมาแล้ว