วันนี้ (17 มิ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ขอให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกสมัย เลิกนำน้ำมันปาล์มบรรจุขวดสำหรับการบริโภค มาจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขายในราคาขวดละ 24-25 บาท และให้ขายในราคาปกติขวดขนาด 1 ลิตร ควรมีราคาขวดละ 34-36 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นมา เนื่องจาก หากห้างขายในราคาต่ำต่อเนื่อง จะกดดันราคาผลปาล์มสด และน้ำมันปาล์มดิบลดลงส่งผลทำให้เกษตรกรเดือดร้อน หากขายต่ำกว่าทุนจะถือว่ามีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2562 ฐานขายสินค้าขาดทุนต่อเนื่อง
วิจารณ์หนัก! จี้ห้างเลิกทำโปรโมชั่นน้ำมันปาล์ม
กรมการค้าภายใน แจงไม่ได้สั่งห้างฯปรับขึ้นราคาน้ำมันปาล์ม เพียงขอความร่วมมือ
นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมค้าส่ง-ค้าปลีกไทย กล่าวถึงสถานการณ์น้ำมันปาล์มบรรจุขวด ว่า เรื่องดังกล่าวมีผลต่อการค้าทั่วไป โดยขณะนี้ร้านค้าส่ง และร้านค้าปลีกปั่นป่วนมาก หลังจากหลายห้างที่เคยจัดโปรโมชั่นลดราคาพิเศษเหลือ 23-24 บาท เปลี่ยนราคาใหม่เป็น 34-35 บาท ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารและที่ต้องใช้วัตถุดิบน้ำมันปาล์มในการผลิต และผู้บริโภครายใหญ่เพิ่มจำนวนการสั่งซื้อและมีการกว้านซื้อในจำนวนที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว เช่น เคยสั่งซื้อจากร้านค้าส่ง 10-20 ลัง ขอเพิ่มเป็น 20-70 ลัง เนื่องจากร้านค้าส่งยังขายในราคาเดิม คือ โหลละ 310 บาทหรือเฉลี่ย 25 บาทสำหรับยี่ห้อยอดนิยม แต่หากเป็นยี่ห้อระดับรอง ๆ ขายโหลละ 298 บาทหรือต่ำกว่า 24 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาในห้างเกือบ 10 บาท ทำให้ทางร้านต้องใช้วิธีเฉลี่ยให้ซื้อได้ไม่เกิน 10 ลังก่อน จนกว่าจะได้สินค้าใหม่
ทั้งนี้ ปัจจุบันราคาส่งน้ำมันปาล์มจากโรงกลั่นถึงผู้ค้าปลีกอยู่ที่เกือบ 30 บาท/ลิตร โดยยังไม่รวมต้นทุนอื่น เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าแรงและค่าขนส่ง ค่าการตลาด จะมีราคาสูงกว่า 30 บาท แต่ยังต่ำกว่าราคาเพดานที่ผู้ผลิตแจ้งไว้กับกรมการค้าภายในลิตรละ 42 บาท โดยก่อนหน้านี้ผู้ค้าปลีกขายราคาต่ำได้ เพราะราคาต้นทุนต่ำโรงกลั่นรับซื้อน้ำมันดิบ (ซีพีโอ) จากโรงสกัด 15-17 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันรับซื้อที่ 20 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งราคารับซื้อเปลี่ยนตลอด เพราะผู้ค้าปลีกอาจมีสต๊อกค้างอยู่ ไม่จำเป็นต้องปรับราคาขึ้นจนเห็นการขายในระดับราคาเดียวกันทั้งตลาด