วันนี้ (25 มิ.ย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนที่เจ้าของที่ดินข้างเคียงจะร้องเรียนมายังผู้สื่อข่าวพีพีทีวี ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดได้รับทราบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว และได้เข้าตรวจสอบโรงงานไปแล้ว ซึ่งวันนี้ก็มาตรวจซ้ำอีกรอบ หลังมีการนำเสนอข่าว ผลเบื้องต้น เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด ก็พบว่าทางโรงงานได้ปรับปรุงแก้ไขจุดที่ถูกร้องเรียนแล้ว
ชาวสมุทรสาคร ร้องพบวัตถุคล้ายกากอุตสาหกรรม
โดยจุดแรกที่โรงงานพาเจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาครไปตรวจ คือ กำแพงข้างโรงงาน ซึ่งเป็นจุดคั่นระหว่างโรงงานกับที่ดินคู่กรณี และถูกร้องว่ามีน้ำออกจากโรงงานตรงจุดนี้ ซึ่งนายพิพัฒน์ โกวิทคณิต ที่ปรึกษากรรมการบริษัทผลิตอลูมิเนียม ชี้แจงว่า แต่ก่อนเป็นประตูสีแดง มีไว้เพื่อให้เจ้าของที่ดินอีกราย ที่ต้องมาเคารพบรรพบุรุษที่สุสานจีน เดินทางเข้าออก และใกล้ประตูจะมีร่องน้ำระบายน้ำฝน จึงเชื่อว่าน้ำที่รั่วเข้าพื้นที่คู่กรณี ไม่ใช่น้ำเสียจากการผลิตอลูมิเนียม เพราะโรงงานมีระบบบำบัดน้ำเสียและเปิดทำงานตลอด แต่โรงงานก็ได้ปรับปรุงปิดรอยรั่ว หรือจุดที่ถูกร้องเรียนแล้ว โดยการสร้างเป็นกำแพงแทนอิฐแทน ส่วนวัตถุสีเทาคล้ายกากอุตสาหกรรมที่พบในที่ดินคู่กรณี
สมุทรสาคร เร่งตรวจวัตถุคล้ายกากอุตสาหกรรม แอบทิ้งบนที่ดินชาวบ้าน
ทั้งนี้นายพิพัฒน์ ยอมรับว่า เป็นตะกรันอลูมิเนียมจริง แต่เป็นตะกรันที่สามารถนำกลับมาหลอมใหม่ได้ และโรงงานมีใบแจ้งนำส่งกำจัดของเสียอันตรายทุกปี แต่ไม่ได้นำตะกรันอลูมิเนียมนี้ไปกำจัด เพราะโรงงานนำเข้าอลูมิเนียมบริสุทธ์ 99.8 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นตะกรันอลูมิเนียมนี้จึงไม่ใช่ของเสียอันตรายที่ต้องส่งไปกำจัด ส่วนที่ตะกรันอลูมิเนียมไปอยู่ในที่ดินข้างเคียง นายพิพัฒน์ เชื่อว่า ถูกขโมยออกไป ซึ่งที่ผ่านมาพบปัญหานี้บ่อย ส่วนใหญ่เป็นคนงานขโมยไปขาย ให้โรงงานรีไซเคิล เพราะมีมูลค่า
ขณะที่ส่วนการตรวจของอุตสาหกรรมจังหวัดวันนี้ ได้เก็บตัวอย่างน้ำก่อนเข้าสู่ระบบบำบัด และหลังบำบัด เพื่อเช็คประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำเสียแล้ว สำหรับประเด็น อุตสาหกรรมจังหวัด ไม่เข้าเก็บตัวอย่างน้ำของคู่กรณี อ้างไม่มีอำนาจหน้าที่
