การประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในฮ่องกงได้กินเวลายาวนาน 7 สัปดาห์แล้วขณะเดียวกันเริ่มมีข้อเรียกร้องในเรื่องอื่นๆ ตามมาพร้อมกับทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นด้วย โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา รุนแรงขึ้นถึงขั้นเข้า “โจมตี” สำนักงานประสานงานของจีน (Central Government Liaison Office) เขตเวสต์เทิร์น โดยขว้างปาไข่ใส่อาคาร ลบหลู่สัญลักษณ์ประเทศ พ่นสเปรย์สีเขียนคำผรุสวาทบนกำแพง "ส่งผลทำให้ทางการจีนมีความพร้อมที่ส่งกำลังทหารเข้ามายังฮ่องกงเพื่อควบคุมสถานการณ์"
ประท้วงฮ่องกงยังระอุ!!! ยกระดับจลาจลส่อแววยืดเยื้อ
โดยนาย Wu Qian โฆษกประจำกระทรวงกลาโหมของจีน ออกมาระบุว่า ทางการจีนได้ติดตามสถานการณ์ในฮ่องกงมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกลุ่มผู้ประท้วงหัวรุนแรงเข้าโจมตีสำนักงานประสานงานของจีนจนเสียหาย นับเป็นการท้าทายอำนาจของรัฐบาลกลางและละเมิดอธิปไตย“หนึ่งประเทศสองระบบ” (One Country Two Systems) ซึ่งเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถทนได้ รัฐบาลกลางจึงพร้อมที่จะดำเนินการตามกฎหมายมาตรา 14 ที่ระบุว่า
จีนประณามม็อบฮ่องกงใช้ความรุนแรง
"รัฐบาลฮ่องกงสามารถขอความช่วยเหลือจากกองทัพจีน เพื่อเข้ารักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงและเมื่อสถานการณ์ดีขึ้นจะถอนกองกำลังกลับค่ายทันที แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการตอบรับอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลฮ่องกง"
อย่างไรก็ตาม นางแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ได้ออกมา แถลงประณามกลุ่มประท้วงที่ไป “โจมตี” สำนักงานประสานงานของจีนว่าเป็นการ “ท้าทาย” อธิปไตยของประเทศ จึงขอประณามพฤติกรรมนี้อย่างแรงที่สุด และ “ความรุนแรงจะยิ่งเพาะความรุนแรงที่แรงยิ่งกว่านี้” แลม กล่าว
ข้อมูล asian nikkei