มารดาเด็กชายวัย 2 ขวบ 5 เดือน ที่ จังหวัดสมุทรปราการ เข้าแจ้งความกับตำรวจ เนื่องจาก บุตรชายได้รับบาดเจ็บสาหัส อาการอยู่ในภาวะวิกฤต หลังว่าจ้างพี่เลี้ยง ให้ดูแลได้เพียง 12 วัน โดยเธอได้นำภาพลูกชายมาเปรียบเทียบให้ดู และบอกว่าตอนนี้ลูกชายต้องเข้ารักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาลสมุทรปราการ ล่าสุด แพทย์แจ้งว่าก้านสมองตาย ไม่สามารถหายใจได้เอง ต้องใช้เครื่องช่วยอยู่ตลอดเวลา อาการอยู่ในภาวะขั้นวิกฤต
แม่ของเด็กเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ลงประกาศหาพี่เลี้ยงเด็กผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องจาก ตนเองและสามี ต้องไปทำงาน โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อมา จึงให้ทดลองเลี้ยงบุตรชายที่ห้องพัก และ ให้ Video Call เพื่อดูการทำงาน และ พฤติกรรม ตอบรับระหว่างบุตรชายกับพี่เลี้ยง ซึ่งก็พบว่าเข้ากันได้ดี จึงตกลงว่าจ้างในราคาเดือนละ 6,500 บาท เริ่มตั้งแต่ วันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยนำบุตรชายไปเลี้ยงดู ที่บ้านของผู้ต้งสงสัย ที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
พ่อเด็ก 2 ขวบพบตะปูในท้อง ให้ปากคำตำรวจเพิ่มเติม
พี่เลี้ยง ปฏิเสธ ทำร้ายเด็กหญิง 2 ขวบ มีแผลเต็มตัว และวัถตุคล้ายตะปูในท้อง
ช่วงแรกพี่เลี้ยง ได้ Video Call สื่อสารชีวิตประจำวันของบุตรชายให้ทราบ แต่ต่อมาเริ่มขาดการสื่อสาร โดยจะติดต่อมา เฉพาะช่วงขอเบิกเงิน เมื่อถามถึงความเป็นอยู่ ก็ได้รับคำตอบว่า บุตรชายไม่สบาย จึงบอกไปว่า จะพาบุตรชายไปหาหมอ แต่พี่เลี้ยงก็บ่ายเบี่ยงว่าจะพาไปเองให้โอนเงินมาแทน จะได้ไม่ลำบาก เพราะต้องเดินทางด้วยเรือ จึงโอนเงินไปให้ส่วนหนึ่ง และ ไปทำงานตามปกติ กระทั่ง วันที่22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ (สะ-หวาด-ยา-นน) โทรศัพท์มาแจ้งว่า บุตรชายป่วยเข้ารักษาตัว จึงรีบไปดูก็พบว่า ตามร่างกายของบุตรชาย มีบาดแผล ตกสะเก็ด มีรอยฟกช้ำทีหน้าอก และ หลัง ศีรษะบวม ไม่รู้สึกตัว หลังปรึกษาสามีและแพทย์ จึงย้ายบุตรชายมารักษาตัวที่ โรงพยาบาลสมุทรปราการ จากนั้น จึงไปแจ้งความกับ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระสมุทรเจดีย์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ เพราะเชื่อว่า บุตรชายได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้าย โดยยืนยันว่า จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เร่งตามตัวพี่เลี้ยงทำร้ายเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็กย่านหนองปรือ
ขณะเดียวกัน หลังมารดาเด็กโทรศัพท์ไปหาพี่เลี้ยง ก็ได้รับคำตอบจากปลายสายว่า ยังอยู่บ้านที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า จึงเดินทางไป แต่ก็ไม่พบตัว ล่าสุด ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อม รอผลการตรวจรักษาจากแพทย์ เพื่อติดตามผู้ก่อเหตุมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
